เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. (ทุ่งสองห้อง) นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นประธานแถลงข่าวการทำลายยาเสพติดของกลางหลังการตรวจพิสูจน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจถึงขั้นตอนการทำลายของกลางยาเสพติดและหลังจากการจับกุม และตรวจพิสูจน์แล้ว ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมีการขนยาเสพติด ประเภทที่ 1 (ยาบ้าและไอซ์) เพื่อไปทำลาย 45 ตัน 400 กว่ากระสอบ จาก 38 คดี  ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ 19 เจ้าหน้าที่ทหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง

นายวิชัย กล่าวว่า เมื่อเจ้าพนักงานผู้จับหรือผู้ยึดจับกุมผู้กระทำผิดและนำยาเสพติดส่งพนักงานสอบสวนสถานตรวจพิสูจน์รับยาเสพติด แล้วจัดทำรายงาน จากนั้นนำยาเสพติดที่เหลือจากการตรวจสอบทั้งหมด จะถูกส่งไปที่คลังเก็บรักษายาเสพติดของกลาง กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเก็บรักษาเอาไว้ ก่อนการนำไปเผาทำลาย ซึ่งแต่เดิมประมวลกฎหมายยาเสพติดต้องเก็บรักษาของกลางไว้จนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษา หรือมีคำสั่งให้เผาทำลาย ทำให้ระยะเวลาที่เก็บรักษาไว้ที่คลังยาเสพติดของกลาง กระทรวงสาธารณสุข ใช้เวลาหลายปี และในคดีที่มีการตรวจยึดของกลาง ที่มีออกหมายจับผู้ต้องหา ผู้ต้องหาหลบหนีก็ต้องรอให้หมดอายุความก่อน อาจจะเป็นเวลา 10 ปี 20 ปี หรือสูงสุดถึง 30 ปี แล้วแต่ความหนักเบาของโทษตามที่กฎหมายกำหนด ต่างจากปัจจุบันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติด และระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบรามยาเสพติด ว่าด้วยการตรวจจับ การตรวจพิสูจน์ การเก็บรักษา การทำลาย การนำไปใช้ประโยชน์ และการรายงานยาเสพติด พ.ศ. 2565 เมื่อส่งไปเก็บรักษาที่คลังแล้วคณะกรรมการตรวจรับยาเสพติด ทำการตรวจรับ ทำบัญชีรายงานเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก็ส่งทำลายได้ทันทีหลังจากคณะกรรมการมีความเห็นชอบให้ทำลายได้ โดยไม่ต้องรอให้คำสั่งศาล ซึ่งทำให้ระยะเวลาในการเก็บรักษาไว้ จะเหลือเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น และในทุกขั้นตอนการดำเนินงานสามารถตรวจสอบได้ เพื่อไม่ให้ยาเสพติดหลุดรอดออกจากระบบ จนกว่ายาเสพติดจะถูกทำลาย 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่ออีกว่า สําหรับการจัดการยาเสพติดของกลาง ที่นำไปเก็บรักษาที่คลังในครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการ ทั้งหมด 3 ครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11, 15 และ 17 สิงหาคม 2565 เป็นยาเสพติดจากทั้งหมด 100 คดี ปริมาณยาเสพติดรวมกัน 13,865.40 กิโลกรัม แบ่งออกเป็นวันที่ 11 สิงหาคม จำนวนยาเสพติด 3,846.38 กิโลกรัม จาก 27 คดี วันที่ 15 สิงหาคม มียาเสพติดที่ส่งไปเก็บรักษา จำนวน 4,542.82 กิโลกรัม จาก 38 คดี และในวันที่ 17 สิงหาคม จำนวนยาเสพติด 5,476.20 กิโลกรัม จาก 35 คดี 

โดยพบว่ายาบ้ายังคงเป็นยาเสพติดประเภทเดียวที่มีจำนวนมากที่สุดรวม 5,476.20 กิโลกรัม ซึ่งทั้งหมดจะนำไปเผาทำลายในระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคมนี้ ที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการอย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจว่า ยาเสพติดทั้งหมด 4.5 ตัน และในส่วนที่เหลือที่จะขนอีกครั้งในวันที่ 17 ส.ค. นี้ จะถูกลำเลียงขนออกจากสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อส่งไปยังคลังยาเสพติดของกลางกระทรวงสาธารณสุขอย่างรัดกุมและไม่หลุดรอดระหว่างทางแน่นอน เนื่องจากต้นท้างที่สำนักงาน ป.ป.ส.เอง จะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนจากหลากหลายส่วน หลายสำนัก ซึ่งเป็นที่คณะกรรมการคัดเลือกมา จะคอยตรวจรับจำนวนปริมาณยาเสพติดที่ถูกบรรจุอยู่ในกระสอบ ก่อนที่ปลายทางจะมีการตรวจรับจำนวนเช่นเดียวกัน โดยจำนวนกระสอบจะต้องตรงกัน ทั้งนี้ตามนโยบายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เล็งเห็นถึงปัญหาการทำลายของกลางยาเสพติด ที่เดิมต้องเก็บรักษาจนกว่าคดีสิ้นสุดหรือมีคำสั่งศาล จึงทำลายได้ ซึ่งเป็นภาระต่อประเทศในการเก็บรักษา ในประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่ จึงได้ปรับกระบวนการการทำลายยาเสพติดดังกล่าว เพื่อให้รวดเร็วขึ้น ไม่เป็นภาระในการเก็บรักษาและลดข้อกังขาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการเก็บรักษา.