เมื่อวันที่ 15 ส.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านไม่โหวตกฎหมายเผด็จการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยขัดรัฐธรรมนูญขัดหลักการตามกติกา ในเมื่อกฎหมายเลือกตั้งบัตร 2 ใบหาร 500 ผิดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชนการที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ตราขึ้นไม่ทันระยะเวลา 180 วันในครั้งนี้ เพราะรัฐสภาไม่จัดการให้เสร็จใน 180 วัน สะท้อนและบอกอะไรกับสังคมไทย และที่พรรค พท.ไม่เข้าร่วมประชุมทำให้มีความเห็นจำนวนหนึ่งที่ตั้งคำถามต่อท่าทีของพรรค พท.

ฝ่ายค้านยุคนี้ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดี ไม่ยอมเล่นตามเกมการขับเคลื่อนของกลุ่มผู้มีอำนาจ การไม่โหวตกฎหมายที่เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ถูกสั่งมาอย่างมีเบื้องหลังเพื่อรักษาอำนาจตนเอง เป็นอีกท่าทีหนึ่งที่ยังดำเนินการตามกติกา การแหวกวงล้อมครั้งนี้ถือว่าเราตั้งใจทำสิ่งที่ดี เราชั่งน้ำหนักการขยับตัวในทางออกนี้ ว่าได้ช่วยให้สังคมไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไป เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการที่แอบแฝงใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง

“ที่สำคัญการกระทำที่เกิดขึ้นของฝ่ายค้านในครั้งนี้ สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญที่เปิดช่องให้แสดงออกได้ โดยกลับไปใช้ร่างหลักที่เสนอต่อสภาในวาระสอง ถือเป็นร่างที่ดีกว่า ถูกต้องกว่าและมีความเป็นประชาธิปไตย ตรงตามรัฐธรรมนูญ มากขึ้นกว่าเดิมโดยมิได้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้นแต่อย่างใด”

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ชัดเจนว่ากลุ่มผู้มีอำนาจและนายกรัฐมนตรีใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อพรรคพวกตน หลอกกลุ่มพรรคเล็กในสภาให้ร่วมกันโหวตสนับสนุนผ่านมติไม่ไว้วางใจต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล ด้วย “ต้นทุน” หรือ “ค่ากล้วย” ราคาถูก ซึ่งการใช้เล่ห์เหลี่ยมของรัฐบาลยิ่งเปิดเผยถึงความเจ้าเล่ห์ กระทำการเพื่อประโยชน์ของพวกตนและกลุ่มชนชั้นนำโดยไม่สนใจหลักการและความถูกต้อง

“มองเห็นสภาเป็นเครื่องมือสำหรับเกมการเมือง นึกอยากจะใช้วิธีหาร 500 ชนิดขัดหลักการทั้ง 4 ร่างเพื่อหลอกให้พรรคเล็กตายใจ แม้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่สนใจ และยังผลักดันให้เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผิดถูก และไม่รู้สึกละอายใจกับการพลิกลิ้นเพียงเพื่อประโยชน์ของตน ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนแม้แต่น้อย”

ครั้นพอผลการโหวตลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคเล็กผ่านความประสงค์เรียบร้อย เมื่อย้อนมาฟังคำตำหนิถึงการกระทำที่ฝ่ายตนจะถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดรัฐธรรมนูญ หากมีผู้ฟ้องร้องก็หันกลับมาปรับมติเสียใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการทางการเมืองของพวกตนบรรลุประโยชน์ของการประหยัด “ค่ากล้วย” ได้เรียบร้อยแล้ว

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า กลุ่ม ส.ว.และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลก็ทำตนเสมือน “หุ่นยนต์ตามสั่ง” ที่ถูกกดปุ่มให้เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มผู้มีอำนาจในรัฐบาลอย่างชัดเจน การเป็น “หุ่นยนต์” ที่ฝ่ายรัฐบาลคอยเติมน้ำมันหล่อลื่นให้ เท่ากับหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีตนเอง ในเมื่อยอมรับการถูกชี้ตัวให้เข้ามาโดยไร้อุดมการณ์ มีแต่ผลประโยชน์จากการทำตามคำสั่ง ยิ่งพากันลากดึงให้ตกต่ำ กลายเป็นกลุ่มที่ “ทำตามคำสั่ง อายไม่เป็น” ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

“การขับเคลื่อนของพรรค พท. และพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองสำคัญ ที่ยังคงอยู่บนฐานคิดของการก่อประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยโดยรวมได้รับโอกาสทำงานการเมืองที่สะท้อนความต้องการทางการเมืองของฝ่ายประชาชนได้มากขึ้น เราทำตามกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ สภาล่มครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะก่อประโยชน์ยิ่งต่อการเมืองไทยในวันหน้า ในขณะที่อีกฝ่าย กระทำการทุกอย่างโดยไม่เคยสนใจกฎกติกา ไม่แคร์ประชาชน แล้วยังจะปล่อยไปได้อย่างไร” นายภูมิธรรม กล่าว.