.เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารีย์ เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีประชาชนถูกโรงพยาบาลเอกชน เก็บเงินค่ารักษาโรคโควิด-19 ล่วงหน้าว่า หลายกรณีที่เราได้เคยรับเรื่องมาบางส่วนได้รับการตอบกลับมีการคืนจำนวนเงินแล้ว ขณะนี้กำลังให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบ (ออดิท) โทรศัพท์ไปถึงผู้ป่วยทุกเคส โดยเฉพาะ รพ.เอกชน ที่มีการรับรักษาผู้ป่วยในระบบยูเส็ปโควิด-19 (UCEP Covid) ทุกรายราวๆ แสนคน เพื่อสอบถามว่าผู้ป่วยถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหรือไม่ มีใบเสร็จหรือไม่ เป็นค่าอะไรบ้าง ได้มีการโทรศัพท์ไปหาแล้ว แต่พบว่ามีเพียงประมาณ 30% ที่รับโทรศัพท์เรา ส่วนที่ไม่รับเพราะกังวลว่าเป็นคอลเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม ในจำนวนที่รับสายนั้นพบว่ามีเพียง 1 ใน 3 แสดงใบเสร็จได้ชัดเจน เนื่องจากตามหลักการจะไม่มีการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม แต่ทาง รพ.อาจชี้แจงถึงกรณีที่ผู้ป่วยมีความต้องการอื่นเพิ่มเติม ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ

เมื่อถามถึงการเรียกคืนเงินให้ประชาชนที่มัดจำค่าใช้จ่ายไป จะได้เต็ม 100% หรือถูกหักอย่างไร นพ.จะเด็จ กล่าวว่า สปสช.ยังไม่ทราบในรายละเอียด ทั้งหมดต้องส่งข้อมูลให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลหน่วยบริการ รพ.เอกชน เพื่อต้องตรวจสอบร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเราได้รับข้อมูลจากการร้องเรียนเข้ามา ฉะนั้นต้องรอผลการตรวจสอบจากการโทรศัทพ์กลับไปสอบถาม แต่บางส่วนติดปัญหาเพราะประชาชนกลัวว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือมิจฉาชีพ ส่วนหนึ่งให้ความร่วมมือส่งใบเสร็จมา แต่หลายกรณีไม่สามารถติดต่อได้

“เราต้องโทรฯกลับหาผู้ป่วยทุกคนที่รับบริการจากเอกชน 100% ทั้งหมดเป็นแสนราย เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ตรวจสอบการจ่ายตามกติกาของยูเส็ปโควิดที่ ครม.กำหนดคือราคาที่ รพ.เอกชน ก็เห็นชอบและยอมรับกันแล้ว ดังนั้นต้องไม่มีการเรียกเก็บเกินกว่าที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นรายการเดียวกัน หรือการเก็บล่วงหน้า ต้องไม่มี ต้องเรียนว่า เงินที่เราจ่ายให้ รพ.เอกชน สำคัญที่สุด เราได้เตือนหลายครั้งแล้วว่า ต้องไม่มีการเรียกเก็บส่วนเกินจากผู้ป่วย ดังนั้น 1.ท่านต้องเอาเงินคืนประชาชน 2. สปสช.อาจจะต้องเรียกเงินคืนในส่วนของเราด้วย ซึ่งกำหนดราคาไปตามสภาวะฉุกเฉินวิกฤตมีกว่า 3 พันกว่ารายการ ทั้งนี้หมายรวมถึง รพ.เอกชนนอกระบบด้วย เพราะมีการตกลงรับราคาครม.แล้ว” นพ.จเด็จ กล่าวเรื่องนี้ สปสช.ต้องมีความละเอียดรอบคอบ เพราะสตง.มีการตรวจสอบเรื่องนี้มาเหมือนกัน

สปสช.จะเร่งสื่อสารให้กับประชาชนทราบว่า หากกรณีที่มีการเรียกเก็บเงินจากหน่วยบริการกรณีโควิด-19 ต้องตามและส่งเรื่องเข้ามาที่ สปสช. ตนได้รับอีเมลจากหลายคนว่าได้รับเงินคืนแล้ว บางคนตกหล่น ดังนั้นขอให้ประชาชนส่งข้อมูลมาที่สายด่วน 1330 เรื่องนี้ละเลยไม่ได้เพราะเป็นเกณฑ์ที่กำหนดไว้ บาง รพ.คิดว่าไม่ตามแล้ว ก็เงียบๆ ไป แต่บางคนตามก็ได้เงินคืน รวมถึงกรณี รพ.จ่ายคืนล่าช้าก็มีค่าปรับดอกเบี้ยให้ประชาชนด้วย อย่างไรก็ตาม หากประชาชนที่ถูกเรียกเก็บเงิน สามารถติดต่อไปยัง รพ.นั้นๆ ก่อน หากถูกเพิกเฉยให้ติดต่อมายังสายด่วนสปสช. 1330 หรือไลน์ @nhso หรือสายด่วน สบส. 1426

“ข้อสำคัญที่ประชาชนสามารถสังเกตได้ว่าเป็นการติดต่อจาก สปสช. ไม่ใช่มิจฉาชีพ แนะนำให้เมื่อรับสาย พูดคุยแล้ว อาจกดวางสายก่อน แล้วติดต่อกลับมาที่ 1330 แต่ข้อสำคัญคือ อย่าเพิ่งให้ข้อมูลส่วนตัวสำคัญ เช่น เลขบัตรประชาชน เลขที่บัญชี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย เพราะแก๊งคอนเซ็นเตอร์ มีการปรับเปลี่ยนวิธีกันไป นี่จึงเป็นความยากของคอลเซ็นเตอร์ สปสช. หรือแนะนำประชาชนแอดไลน์สปสช. @nhso มาเพื่อสอบถามข้อมูล ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลอยู่” นพ.จเด็จกล่าว