จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปภาพเหตุการณ์ ภายในศาลาการเปรียญวัดจันทรังษี บ้านหนองบัวน้อย หมู่ 6 ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่พังถล่มลงมาเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ในช่วงที่เหล่าพระภิกษุ สามเณรกำลังทำวัตร ปรากฏว่ามีฝ้าเพดานพังถล่มลงมา ทำให้พระได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบยังวัดจันทรังษี ที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านกำลังช่วยกันเก็บกวาดเศษมูลนกพิราบ และเศษกระเบื้องฝ้าเพดาน ที่มีจำนวนมากกว่า 50 กระสอบ หรือประมาณ 1 ตัน ขณะที่ด้านบนฝ้าเพดานที่ร่วงหล่นลงมาจนเป็นรูโหว่ ที่พื้นยังพบเศษกระเบื้อง ฝ้า และเศษมูลนกพิราบตกเกลื่อนพื้น

ภายหลัง พระธรรมธรบุญชู มหาวโร เจ้าอาวาสวัดจันทรังษี เจ้าคณะตำบลหนองตูม เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. หลังจากที่มีพายุฝนตกหนักและลมสงบลง พระสงฆ์ 4 รูป ได้มานั่งทำวัตรภายในศาลาการเปรียญ จังหวะสวดได้เพียงสามบท ก็ได้ยินเสียงเศษฝ้าตกลงมาก่อน 1 ครั้ง จากนั้นฝ้าทั้งหมดก็หล่นตามลงมาเป็นครั้งที่ 2 ทำให้ฝุ่นและเศษมูลนกที่ติดค้างบนฝ้าฟุ้งกระจาย จนพระ-เณร ต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด หลังเกิดเหตุทราบว่า มีพระถูกเศษกระเบื้องบาดเท้าเล็กน้อย คาดว่าการพังของฝ้าเพดานนั้น น่าจะมาจากอิทธิพลพายุฝน ที่พัดตกกระหน่ำนานหลายชั่วโมง ประกอบกับมีนกพิราบมาทำรังและมาอาศัยอยู่บนฝ้าเพดานมานาน พร้อมกับมีมูลนกพิราบอยู่เต็มฝ้าเพดาน จนรับน้ำขังไม่ไหวพังถล่มลงมาดังกล่าว หลังจากนี้จะติดต่อให้ช่างมาซ่อมแซมหลังคา และตรวจสอบสภาพหลังคาทั้งหมด เพราะยังพบว่า วันนี้ยังมีฝนที่อาจจะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ได้อีก

ด้าน นายนพเก้า พิมพ์หานาม ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองบัวน้อย หมู่ 6 เปิดเผยว่า ศาลาการเปรียญดังกล่าวสร้างมานานกว่า 20 ปี และมีนกพิราบบินมาทำรังอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังถ่ายมูลไว้บนหลังคาน้ำหนักกว่าตัน ประกอบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสัปดาห์มีฝนตกในพื้นที่ ทำให้มูลนกอุ้มน้ำและดันให้ฝ้าที่มีอายุการใช้งานมานานแตก ก่อนจะพังถล่มลงมา จากนี้ไปชาวบ้านได้หารือกันว่าจะหารายได้มาซ่อมแซมฝ้าเพดานให้มั่นคงถาวรมากยิ่งขึ้น อยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีจิตศรัทธามาบริจาคช่วยวัด เพื่อปรับปรุงศาลาการเปรียญแห่งนี้ด้วย.