เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศอ.ปส.ตร. กล่าวว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อต่างๆ กรณีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมใช้ยาลิ้นฟ้า หรือที่เรียกว่ายาโรฮิบนอล ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของยาในกลุ่มฟลูนิแทรซิแพม (Flunitrazepam) หรืออาจเป็นกลุ่มยาลักษณะเดียวกัน จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือเป็นยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป ต้องจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น

สำหรับกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยต่อเยาวชนที่ถูกชักจูงให้ใช้ยาประเภทนี้ รวมถึงฝากให้ผู้ปกครองหมั่นดูแลบุตรหลานในครอบครัว เพราะยาดังกล่าว ถ้าหากมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปมอมผู้อื่นให้หมดแรงต่อสู้ จำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพื่อก่ออาชญากรรม โดยส่วนใหญ่ใช้ผสมในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ Flunitrazepam ออกฤทธิ์กดประสาทแรงขึ้น โดยในขณะนี้พบว่า มีกลุ่มวัยรุ่นได้มีการนำไปเสพเพื่อให้เกิดอาการมึนและอวดลิ้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า โดยขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากอาจเกิดผลข้างเคียงจนถึงแก่ชีวิตได้ เช่น หยุดหายใจ หากเสพปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่สูงมาก

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและยาต้องห้ามชนิดอื่น และผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย หรือโฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกฎหมายบทอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ให้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการสืบสวนเอาผิดกับสถานพยาบาล หรือแหล่งจำหน่ายใดๆ ในทุกช่องทาง ที่ลักลอบจำหน่ายหรือจ่ายยาดังกล่าวให้กับกลุ่มเยาวชนโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ และจะถูกดำเนินคดีทั้งเรื่องการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษหนัก ทั้งโทษปรับและจำคุก