เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวตอนหนึ่งในงาน “Meet the press กัญชากัญชง เพื่อประโยชน์การแพทย์และเศรษฐกิจ” สรุปภาพหลังปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด กรมการแพทย์เก็บข้อมูลระหว่าง 6 มิ.ย.-16 ส.ค. พบมีผู้ได้รับพิษเฉียบพลันเช่น ช็อก หัวใจหยุดเต้น หลอน 60 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 1 คน ส่วนข้อมูลการบำบัดยาเสพติดในไทยปีที่ผ่านมา พบว่าคนมาบำบัดยาบ้าเกือบ 80% กัญชา 4.2%และจะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น ศัตรูตัวจริงที่ใกล้ตัวประชาชนมากที่สุดคือยาบ้า ส่วนกัญชาจัดเป็นพืชเสพติด เป็นสมุนไพรที่ใช้เป็นยาประกอบอาหารมาช้านาน แพทย์แผนไทย และแพทย์ที่วิจัยเรื่องนี้ต่างก็ยืนยัน ส่วนใครได้กลิ่น หรือเจอการเสพสูบ สามารถแจ้งดำเนินการเอาผิดได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. …. สัปดาห์นี้น่าจะเสร็จ ถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความครอบคลุม ส่วนการเปิดแอพปลูกกัญ มีคนเข้ามาใช้งาน 46 ล้านครั้ง จดแจ้ง 1.1 ล้านราย เพื่อปลูกในครัวเรือน ส่วนเชิงพาณิชย์ มีการจดแจ้งหลายพันราย

“ในอนาคตไม่รู้ว่าจะได้กลับมาที่ สธ.หรือไม่ แต่ถ้ามีโอกาสก็จะขอกลับมาอีกแน่นอน เพื่อสานต่อเรื่องนี้ให้จบ” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการออกประกาศ สธ.คุมช่อดอกกัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า คงไม่ต้องเพิ่มเติมอะไร เพราะร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ จะเสร็จในวันศุกร์นี้ และตั้งแต่ปลดล็อก 2 เดือนกว่า ก็ไม่มีเหตุอะไรที่บอกว่าใช้กัญชาในทางที่ผิดเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามพบว่ามีการใช้อย่างเข้าใจมากขึ้น

แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุขให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการใช้กัญชาที่ต้องเข้า รพ.ทั้ง 60 ราย มีอาการไม่รุนแรงมากและพบ 51 ราย เป็นการใช้สันทนาการ มีเพียงเล็กน้อยที่ได้รับกัญชาโดยไม่เจตนา อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าผลกระทบเหล่านี้ มีมากในช่วงการปลดล็อกระยะแรก แต่ลดลงในระยะหลัง เพราะประชาชน มีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้น.