กรณี นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ ออกมาเปิดเผยเผยถึงกระแสข่าวสถานการณ์สุกรในขณะนี้ว่า มีบางอย่างผิดปกติเนื่องจากปริมาณหมูส่งเข้าภาคเหนือมีมากเกินความเป็นจริง จากปกติจะมีหมูเข้าเชือดประมาณ 2,000-3,000 ตัวต่อเดือน และมีการนำเข้าซากหมูหรือหมูที่เชือดแล้วประมาณ 2-3 ล้านกิโลกรัมต่อเดือน แต่ในช่วงเดือน ก.ค. มีการนำเข้า “ซากหมู” ขึ้นมาทางภาคเหนือ เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านกิโลกรัมต่อเดือน ส่งผลกระทบให้ยอดขายหมูมีชีวิตในฟาร์ม 30% นอกจากนี้ยังมีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาตามช่องทางต่างๆ มาวางขายกันเกลื่อนตลาดส่งผลกระทบต่อราคาหมูมีชีวิตของเกษตรกรไทย จึงต้องขอร้องให้ภาครัฐขจัดปัญหาหมูเถื่อนอย่างจริงจังโดยทันที ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

แฉ ‘หมูเถื่อน’ ทะลักเข้าไทย กระจายเกลื่อนเมือง วอนรัฐกวาดล้างจริงจัง!

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เรื่องนี้เราเข้มงวดอยู่แล้ว ตั้งแต่มีเรื่องโรคระบาดอหิวาต์ในสุกร ซึ่งโดยพื้นฐาน ลักษณะในการกระทำความผิด ถ้าเข้ามาอย่างเป็นทางการ หมายถึงว่าเข้ามาถึงท่าเรือแหลมฉบัง จะเป็นลักษณะการลักลอบเท่านั้นคือปะปนมากับสินค้าแช่แข็งอื่น ไม่มีทางที่จะเอาเข้ามาลอยๆ ตู้เดียวโดดๆ เนื่องจากมันเป็นของมีชีวิต ซึ่งต้องอาศัยตู้เฉพาะเพื่อเก็บความเย็น ถ้าเป็นตู้ร้อนจะเน่าเสีย เพราะฉะนั้นตู้ในลักษณะนี้จะมีข้อจำกัด เพราะฉะนั้นการตรวจ ณ วันนี้ มีหน่วยงานตรวจร่วมกันอยู่แล้ว ทั้งด่านกักพืช ด่านกักสัตว์ ที่ประจำอยู่ที่ท่าเรือ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะมีการหลุดรอดยากมาก หากถามว่ามีโอกาสหลุดรอดไหม ก็อาจจะมีบ้าง แต่ก็ไม่เยอะแน่นอน และไม่มีทางมาบอกว่าสำแดงเข้ามาเป็นอย่างอื่น เป็นตู้ๆอย่างนี้ ยากครับ เพราะมันเป็นตู้เฉพาะ อย่างมากก็ได้แค่ลักลอบ ซุกซ่อนมาได้นิดหน่อย ไม่แน่ใจว่าหลุดหรือไม่หลุด ซึ่งก็พยายามทำกันดีที่สุด เพราะกลัวโรคระบาด โรคติดต่ออะไรทั้งหลายที่เข้ามา และทำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว

นายพชร เผยอีกว่า สินค้าพวกนี้ต้องอยู่ในเครื่องทำความเย็นตลอดเวลา การควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ หลังจากหลุดจากศุลกากรไป จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง มีการตรวจในทุกขั้นตอนขนาดขนย้ายยังยาก เพราะฉะนั้นทำได้อย่างเดียวคือลักลอบ แต่จะทำกันโจ่งครึ่มอย่างที่ท่านนายกสมาคมฯท่านพูดไว้ มันคงไม่คล่องตัว ตนยืนยันเพราะมีหน่วยงานเฝ้าระวังกันเยอะแยะมากมาย ปกติเราเป็นประเทศส่งออก เนื้อหมูเราไม่ได้นำเข้า ถ้าดูตัวเลขย้อนหลังมาปี 63 ปี 64 และ 65 แต่พอมามีปัญหาในไปปลายๆปี 65 เราก็หยุดการส่งออก เวลาส่งออกจะส่งออกแบบสุกรมีชีวิต ผ่านประเทศเพื่อนบ้านไป และอีกทั้งเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา สามารถจับได้ 2 เคสใหญ่ ยังไม่รวมเคสที่จับร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคนแถลง คือจับเองก็ 2 เคสใหญ่ ปริมาณ 4 ถึง 5 ตัน ที่ทางภาคอีสานแต่เป็นการลักลอบนำเข้า หลบเลี่ยงชายแดนมาไม่ได้สำแดงอะไรทั้งสิ้น เป็นการลักลอบผ่านชายแดน อันนี้มีความผิดปกติ ส่วนทางภาคใต้จะเป็นพวกเนื้อวัว ซึ่งก็น้อยมาก

นายสุรเดช ตรงศิริวิบูลย์ ผอ.สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ในส่วนที่ท่าเรือแหลมฉบัง ก็จะมีการตรวจจับบ้างที่มีการซุกซ่อนเข้ามาปะปนมากับอาหารแช่แข็งอื่นๆ แต่จะมีบ้างเล็กน้อยก็เป็นเรื่องปกติของการกระทำความผิด ถ้าดูจากยอดการกระทำความผิดปีหนึ่ง สามารถจับกุมได้ประมาณ 4-5 ราย ประมาณนี้ก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร แต่หลังจากที่เป็นข่าวก็ได้ออกคำสั่งเวียนให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประเภทสุกรเลี่ยงภาษีอากรมากขึ้น รวมทั้งการสำแดงเท็จจากสินค้าสุกรเป็นสินค้าประเภทปลา เพื่อหลบเลี่ยงการขอใบอนุญาตนำเข้าราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ จากการแพร่ระบาดของอหิวาต์แอฟริกันในเนื้อสุกร อย่างจริงจัง