เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่สำนักงาน ทนายความจิตอาสา บางใหญ่ซิตี้ซอย 8/1 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น.ส.ณัชชา (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พนักงานบริษัทอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งย่าน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เดินทางเข้ามาร้องทุกข์กับ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังถูกนายพล (นามสมมุติ) อ้างว่าเป็นตำรวจ สามารถช่วยเหลือทางด้านคดีการประกันตัวน้องชายผู้ต้องหา ก่อนจะสูญเงินไป 30,000 บาท

น.ส.ณัชชา กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานเข้ามาขอความช่วยเหลือจากทนายโป้ง เนื่องจากถูกนายพล หลอกลวงว่าจะช่วยเหลือด้านการเดินเรื่องประกันตัวน้องชายของตนข้อหายาเสพติด หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวและต้องใช้เงินประกันตัว 40,000-100,000 บาท แต่ตนมีเงินไม่เพียงพอ ทางนายพล ที่รู้จักสนิทกับน้องชายของตน ได้มาบอกว่าเป็นตำรวจ สามารถช่วยเหลือทางด้านคดีหรือช่วยเหลือทางด้านประกันตัวน้องชายตนได้ ตนจึงเชื่อใจให้นายพล เดินเรื่องประกันตัวน้องชาย โดยนายพล บอกว่ามีค่าใช้จ่าย ตนและครอบครัวจึงได้รวบรวมเงินมาได้จำนวนหนึ่งจากการเอารถมอเตอร์ไซค์ไปจำนำ และอีกส่วนหนึ่งก็ไปกู้ยืมคนอื่นมาบวกกับเงินที่พอมีอยู่บ้างไม่มากนัก ตนได้พูดคุยกับนายพล ผ่านทางไลน์และได้โอนเงินไปครั้งแรก 22,000 บาท ครั้งที่สอง 8,000 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 30,000 บาท หลังจากได้โอนเงินไปแล้ว สุดท้ายน้องชายตนก็ไม่ได้รับการประกันตัวตามคำแอบอ้างของนายพล

นางสาวณัชชา กล่าวต่อว่า ต่อมาตนได้โทรฯ ไปพูดคุยถึงเรื่องเงินที่โอนไป เพราะนายพล บอกว่าถ้าช่วยไม่ได้จะคืนเงินให้ทั้งหมดที่โอนไป แต่ถูกปฏิเสธ ตนอยากได้เงินคืนเพราะสงสารแม่ของตนที่ไปกู้หนี้ยืมสินเขามา เพื่อที่จะนำเงินมาประกันตัวน้องชาย แต่นายพลช่วยไม่ได้และยังไม่คืนเงินตามที่ได้พูดคุยกันไว้ก่อนนี้ ทำให้แม่ของตนมีอาการเครียดและเสียใจ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไหนลูกชายจะต้องติดคุก และต้องมาเสียเงินเพราะโดนหลอกอีก เงินที่กู้มาก็ต้องหามาใช้เขา ทำให้ตนและครอบครัวเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะตนก็ป่วยเป็นโรคมะเร็งและพึ่งจะดีขึ้น แต่ก็รักษาตัวอยู่ ต้องไปพบหมอทุกๆ 3 เดือน แต่ก่อนตนจะป่วย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตนเคยเข้าแข่งขันประกวดร้องเพลงในรายการทีวี ซึ่งได้ผ่านเข้ารอบ แต่หลังจากตนป่วย ก็เลยไม่สามารถเข้าประกวดได้อีก เพราะสุขภาพไม่ดี

“วันนี้ได้เดินทางมาหาทนายโป้ง เพื่อขอคำปรึกษา เพราะก่อนหน้านี้ตนได้ไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่กับได้รับคำพูดบอกกลับมาว่า ตนกับแม่ อาจจะโดนข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงานได้ จึงเกิดความหวาดกลัวเลยไม่กล้าแจ้งความ แต่ตนอยากได้เงินคืน อยากให้ทนายโป้งช่วยเหลือที่ถูกนายพล หลอกเอาเงินไปว่าจะมีวิธีไดบ้าง ถึงจะได้เงินคืนเพราะตอนนี้เดือดร้อนมาก” น.ส.ณัชชา กล่าว

ทนายโป้ง กล่าวว่า จากการพูดคุยกับผู้เสียหายเล่าให้ฟังและนำหลักฐานมาให้ดู พบว่ากรณีนี้เข้าข่ายฉ้อโกง เพราะว่าเป็นการแอบอ้าง ทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถช่วยเหลือได้ จากการตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ถือเป็นการแอบอ้าง การฉ้อโกง เป็นมิจฉาชีพ หลอกเพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 30,000 บาท ซึ่งเป็นที่น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเพราะเงินจำนวนนี้ต้องไปกู้ยืมมาและรถที่ได้นำไปจำนำ ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่ารถไปอยู่ที่ไหน เพราะได้จำนำไว้กับบุคคลธรรมดา ยังต้องส่งค่างวดกับทางไฟแนนซ์อยู่ได้รับความเดือดร้อน ทั้งค่างวดรถและเงินกู้ แถมไปแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่าอาจถูกแจ้งข้อหาได้ ทางทนายโป้งฝากถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่า ให้ดูแลกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับความเป็นธรรมด้วย.