นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า จากที่มีโอกาสเข้าร่วมงานประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่ภาคธุรกิจอย่างมาก จึงอยากให้นักธุรกิจทุกคนไปเข้าร่วมสภาเศรษฐกิจโลก เพราะจะเป็นงานที่กำหนดทิศทางธุรกิจโลกว่าจะเดินไปทางไหน และได้เรียนรู้ศึกษากฎใหม่ของโลก ซึ่งในครั้งนี้ได้พูดคุยกันมากเรื่อง การลดใช้คาร์บอน เน็ตซีโร่ เรื่องสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนและเรื่องความเท่าเทียม

นอกจากนี้มองว่าควรผลักดันให้เกิดกระทรวงเกรดเอใหม่ในไทย อย่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เนื่องจากสอดคล้องกับโลกอนาคตที่จะมุ่งไปด้านรักษาสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน และที่สำคัญคือในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งหากดูในหลายประเทศใหญ่ๆ เช่น จีนที่ดิจิทัลเป็นตัวสนับสนุนเศรษฐกิจสัดส่วน 40% และสหรัฐที่ในตลาดหุ้นแนสแด็กส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

ทั้งนี้จากในงานสภาเศรษฐกิจโลกได้พูดถึงกันเยอะในเรื่องการเข้าถึงของเทคโนโลยี และไทยควรผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีของไทยไปแข่งขันกับต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าประเทศ และการใช้เทคโนโลยียังสามารถลดต้นทุนของภาคธุรกิจได้ด้วย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการเงินฟินเทค การแพทย์ การศึกษา ซึ่งหากนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยลดต้นทุนได้มาก และได้จำนวนลูกค้าที่มากขึ้น

ขณะที่ในงานสภาเศรษฐกิจโลกยังพูดถึงเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือซีบีดีซี ซึ่งเป็นสิ่งที่มาแน่นอนในอนาคต เป็นสิ่งที่ทั่วโลกจำเป็นต้องยอมรับ โดยผู้ว่าธนาคารกลางหลายประเทศที่ไปดาวอสพูดตรงกันว่าอย่างไรแล้วซีบีดีซีมาแน่นอน เพราะการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล ก็ต้องเป็นเงินดิจิทัล เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอยู่ที่ว่าจะมีการควบคุมกฎหมายกำกับอย่างไร

นายจิรายุส กล่าวว่า ในงานสภาเศรษฐกิจโลกผู้นำทั่วโลกกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอ แต่หากขึ้นดอกเบี้ยเยอะก็อาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยได้ ซึ่งในไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้ครัวเรือนสูงด้วย ทำอย่างไรไม่ให้หนี้โตมากกว่ารายได้ เพราะถ้าหนี้โตมากกว่ารายได้เมื่อไร จะเป็นตัวจุดระเบิดให้กับเศรษฐกิจไทย โดยมีความเห็นว่าการคุมหนี้ครัวเรือนและให้รายได้โตกว่าจะต้องขึ้นภาษี และต้องขึ้นภาษีคนรวยให้เร็วที่สุด และขึ้นภาษีบริษัทที่มีกำไรสูง ควรแบ่งภาษีของสรรพากรออกเป็น 2 กลุ่ม เก็บภาษีคนรวยสูง และอย่าเก็บภาษีสูงกับธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็ก เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เท่าเทียมด้วย ซึ่งถ้าไม่อยากให้ประเทศล้มละลายต้องขึ้นภาษีคนรวย

“ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรืออยู่วงการไหนคนสร้างกฎมักจะได้เปรียบมากกว่าคนเล่นตามกฎ แต่จะบอกว่าประเทศไทยเล็กเกินไปที่จะสร้างกฎ เป็นได้แต่คนทำตามกฎ แต่คนที่ทำตามกฎก็มีโอกาสที่จะชนะการเล่นเกมนี้มากกว่าคนไม่เล่นตามกฎ ไทยไม่ได้อยู่ในจุดที่เป็นคนที่สร้างกฎได้ แต่อย่างน้อยเปิดใจที่จะศึกษากฎใหม่ของโลกธุรกิจ แนะนำให้นักธุรกิจไปดาวอสเปิดใจศึกษากฎใหม่เพื่อมาปรับเปลี่ยนบริบทธุรกิจใหม่ของไทย อยากให้ผู้กำกับดูแล นักการเมือง ที่เกี่ยวข้องไปดาวอส จะเข้าใจโลกเดินไปทิศทางไหน เล่นเกมอย่างไรให้เป็นผู้ชนะในเกมจากกฎใหม่ที่เปลี่ยนไป”