เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในไทย พบยอดสะสมของผู้เสียชีวิตมีจำนวน 6,353 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 149 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตที่มีอายุมากที่สุด คือ 103 ปี และอายุน้อยที่สุด คือ 4 เดือน ทั้งนี้จำแนกพื้นที่พบผู้เสียชีวิต ได้แก่ กรุงเทพฯ 54 ราย สมุทรปราการ 20 ราย ตาก 7 ราย นครปฐม 6 ราย พระนครศรีอยุธยา 6 ราย ชลบุรี 6 ราย ระยอง 5 ราย นครราชสีมา 5 ราย ปทุมธานี 3 ราย ปัตตานี 4 ราย นราธิวาส 3 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย ส่วนยะลา อุบลราชธานี หนองบัวลำภู พิษณุโลก นครสวรรค์ ชัยภูมิ เพชรบุรี สระบุรี อ่างทอง จังหวัดละ 2 ราย ขณะที่แม่ฮ่องสอน สงขลา นครศรีธรรมราช พังงาน ตราด จันทบุรี สุรินทร์ ขอนแก่น สุโขทัย จังหวัดละ 1 ราย

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ มีผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปีและมีประวัติป่วยโรคใน 7 กลุ่มเสี่ยง มีจำนวนคิดเป็น 19 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อรวมจำนวนของ 2 ส่วนนี้ พบว่าคิดเป็นอัตรา 84 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่ ทั้งนี้มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน 26 ราย แยกเป็นในกรุงเทพฯ 24 ราย และชลบุรี 2 ราย ขณะเดียวกัน ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา มีการรายงานการเสียชีวิตของเด็กเล็ก โดยการรายงานข้อมูลเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา พบมีเด็กอายุ 14 วัน ชาวเมียนมา เสียชีวิตที่ จ.เพชรบูรณ์ และข้อมูลที่รายงานในวันนี้ (9 ส.ค.) เป็นทารกชาวเมียนมา อายุ 4 เดือน ใน จ.สมุทรปราการ ขณะที่ข้อมูลจากเพจของ “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ของ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ได้สรุปจำนวนเด็กติดเชื้อโควิด-19 มีประมาณ 30,000 คน และมีการเสียชีวิต 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 8 รายที่พบมีโรคประจำตัว