เมื่อวันที่ 29 ส.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.สงขลา ว่าได้พูดคุยกัน และมีความมั่นใจที่จะเสนอตัวให้พี่น้องประชาชนพิจารณาเลือกเข้ามาเป็นผู้แทน
เมื่อถามว่าที่ประกาศปักเสาเข็มทั่วประเทศนั้น คาดหวังเก้าอี้ ส.ส.กี่ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า จะทำให้ดีที่สุด เราปักเสาเข็มไปเรื่อย โดยจะไม่เอาคำว่า “แลนด์สไลด์” แต่เราปักเสาเข็มเพื่อไปต่อยอดจะได้มั่นคง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะมีการปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แทนนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครแจ้งมา ปกติในช่วงที่ผ่านมา หากมีการปรับ ครม. ถึงเวลาที่เหมาะสมนายกรัฐมนตรีจะแจ้งมายังหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่ครั้งนี้ยังไม่มีการแจ้งหรือมีสัญญาณใดๆ มาเลย ยืนยันว่านางกนกวรรณยังเป็น รมช.ศึกษาธิการ อยู่ แต่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่ต้องมีใครมาเปลี่ยน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ภาคใต้ขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ปรับ ครม. เพื่อให้มี ส.ส.ภาคใต้ เป็นรัฐมนตรี ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีความกังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องไปถามพรรคพลังประชารัฐ เป็นเรื่องของเขา ตนเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่าหากมีการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทยจะเสนอเปลี่ยนในตำแหน่งของนางกนกวรรณ ด้วยเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอสัญญาณก่อน ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร เรายังไม่รู้ว่านายกฯ จะปรับหรือไม่
ทางด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย แถลงแสดงความพร้อมในการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคใต้
โดยนายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากการเป็นรัฐบาลมา 3 ปีเศษ ที่ประกอบไปด้วย 3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง 4 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ เป็นผลรูปธรรมและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนชาวใต้ โดยเฉพาะนโยบายสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงนโยบายแก้ปัญหาโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นผลสำเร็จ และระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานคมนาคมขนส่ง ตอบโจทย์ความต้องการประชาชน ซึ่งตรงกับสโลแกนของพรรค คือ “พูดแล้วทำ”
ฉะนั้นการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 6-7 เดือนข้างหน้า จึงต้องขอโอกาสประชาชนเพื่อเข้ามาผลักดันงานต่างๆ ให้ประชาชนภาคใต้ต่อไปให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 62 เราได้ ส.ส.ภาคใต้มา 8 ที่นั่งจาก 50 เขตในพื้นที่ภาคใต้ แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ได้เพิ่มเป็น 58 เขต เราจึงขอเพิ่มอย่างน้อยอีก 8 ที่นั่ง รวมเป็นไม่น้อยกว่า 16 ที่นั่ง โดย 8 ที่นั่งที่เพิ่มมานั้น เป็นพื้นที่ใหม่ ไม่ได้มีเจ้าของพื้นที่เดิม จึงขอโอกาสตรงนี้เพื่อทำงาน ซึ่งไม่สร้างความขัดแย้งกับใครอีกด้วย