เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 1 ก.ย. ที่สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง การเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเพื่อการผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคและบริโภค ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ปล่อยมุกว่า ​”ขอเปิดแมสก์นะ​ จะได้เห็นหน้าหน่อย​ คนพูดจะได้พูดได้​ ไม่เช่นนั้นจะหายใจไม่ออก วันนี้ผมได้มาเยี่ยม ยินดีเป็นอย่างยิ่งและขอบคุณ”

พล.อ.ประวิตร ยืนยันรัฐบาลได้ให้งบประมาณต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องน้ำ ในทุกปีและเตรียมผลักดันโครงการสร้างประตูน้ำป้องกันน้ำเค็มจากลำน้ำบางปะกง ทั้งนี้ในช่วง 3 ปีที่ผานมา ไม่มีประกาศภัยแล้งและมั่นใจไม่เกิดเหตุน้ำท่วมซ้ำรอยปี 2554 แน่นอน

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร เน้นย้ำให้ฝ่ายเกี่ยวข้องเตรียมสำรองน้ำดิบให้เพียงพอตามความต้องการ เพราะหากไม่มีน้ำ ประชาชนจะด่ารัฐบาลและขอให้ข้าราชการที่ใช้เงินภาษีทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ มุ่งมั่นทำหน้าที่ให้เต็มที่เต็มความรู้ความสามารถ สนองความต้องการของประชาชน

“ประชาชนเกรงว่าฝนตกปีนี้จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 54 ผมขอรับรองว่าไม่เกิดขึ้นอย่างปี 54 แน่นอน น้ำจะไม่ท่วมอย่างปี 54 แน่นอน เพราะฉะนั้น ผมอยากจะบอกว่าทั้งกรมชลประทาน และ สทนช. ร่วมกันในการที่จะกระจายน้ำ เมื่อฝนตกมาจากทางเหนือก็กระจายน้ำไม่ให้เกิดน้ำท่วมพยายามทำอยู่ตลอดเวลา มีกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำ ในการกำกับดูแลลุ่มน้ำมีคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัด ในการที่จะดูว่าน้ำจะมีมากขึ้นหรือน้อยลงหรือแล้ง เราทำมา 3 ปีแล้วไม่มีแล้งเลย 3 ปี จะสังเกตได้ว่าหน่วยงานไม่มีประกาศภัยแล้ง​ เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ เพราะฉะนั้นรัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมาก ต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเร็ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว

อย่างไรก็ตามภายหลังติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกงแล้ว พล.อ.ประวิตร จะไปพบปะชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) แห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา อีกทั้งในช่วงบ่ายจะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ เพื่อเป็นประธานในการเปิดการสัมนาและปาฐกถาในหัวข้อ แนวทางส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชนวุฒิสภา และก่อนเดินทางกลับจะเข้าสักการะพระพุทธโสธรและถวายสังฆทานแด่เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร.