เมื่อวันที่ 3 ก.ย. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย และนายประภัสร์ จงสงวน สมาชิกพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ร่วมศึกษาปัญหาการระบายน้ำในเขตดอนเมือง ซึ่งมีชุมชนขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยประชาชนอาศัยดั้งเดิม ทั้งในส่วนของหมู่บ้านจัดสรร บ้านเรือนในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ใช้เวลาในการระบายน้ำหลายชั่วโมง จึงต้องการเข้ามาดูแลปัญหาให้กับประชาชนผ่านการทำงานของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และ ส.ก.

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่ากรุงเทพมหานครยังมีอีก 50 จุด ที่มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมขังจากฝนตกปริมาณมาก การลงพื้นที่ดอนเมืองในวันนี้ เป็นการเตรียมการล่วงหน้า เพื่อรับมือกับพายุที่อาจจะเพิ่มปริมาณฝนตกในกรุงเทพฯ ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทย โดย ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเตือนรัฐบาล ให้ระมัดระวัง “น้ำฟ้า” มากกว่า “น้ำท่า” เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก เลี่ยงไม่ได้ที่หลายพื้นที่จะเข้าสู่ความเสี่ยงน้ำท่วม และประเทศไทยอาจจะต้องรับมือกับสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด เช่น ระเบิดฝน (Rain Bomb) แบบที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้และปากีสถาน ซึ่งสามารถเกิดขึ้นในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ดี นโยบายกองทุนพัฒนาชุมชน 2 แสนบาท ของ ส.ก.พรรคเพื่อไทย จะสามารถเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการชุมชนที่มีข้อจำกัดในลักษณะเดียวกันกับดอนเมืองได้ หากประชาชนมีความเดือดร้อนในเบื้องต้น สามารถร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ประสานงาน ส.ส. และ ส.ก. พรรคเพื่อไทยได้
ทางด้าน นายสุธนพจน์ กิจธนาภิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย นำทีมขับรถขุดตัก ขุดลอกท่อระบายน้ำบริเวณชุมชนเคหะดอนเมือง ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากเมื่อเกิดฝนตกหนัก โดยในเขตดอนเมือง ส่วนใหญ่เป็นบ้านจัดสรรเก่าแก่ ก่อสร้างมานาน 10-20 ปี ในหมู่บ้านจึงไม่มีนิติบุคคลมาบริหารจัดการช่วยเหลือลูกบ้าน เมื่อครั้งที่ตนเคยเป็นสมาชิกสภาเขตกรุงเทพฯ ได้เคยประสานความร่วมมือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด แต่ติดขัดปัญหาเรื่องพื้นที่เอกชน ที่ภาครัฐไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการได้ และขาดแคลนงบประมาณ ตนซึ่งมีความพร้อมในด้านของเครื่องมือ อุปกรณ์ รถตักล้อยาง รถแบ๊กโฮ รถสิบล้อและรถหกล้อ รวมทั้งบุคลากร จึงเข้ามาดูแลแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในเบื้องต้น โดยได้ประสาน ส.ก.เพื่อไทย ในการนำงบประมาณบางส่วนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในเชิงพื้นที่ ทั้งด้านการขุดลอกท่อระบายน้ำ และตัดต้นไม้ที่อาจสร้างอันตรายต่อชีวิตประชาชน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมานับตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูฝนจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้ได้ดำเนินการขุดลอกท่อระบายน้ำในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนได้กว่า 17 ชุมชน รวม 2,000 หลังคาเรือน และจะยังดำเนินการต่อเนื่องต่อไป

สำหรับการลอกท่อระบายน้ำ ใช้วิธีการเดียวกับการขุดลอกท่อโดยกรมราชทัณฑ์ นอกจากนี้ยังได้มอบโซลาร์เซลล์ ติดตั้งไฟส่องสว่างกับประชาชนในพื้นที่นับร้อยหลังคาเรือนด้วย โดยปีนี้จะติดตั้งให้ได้ 500 ดวง สำหรับประชาชนในพื้นที่ดอนเมืองที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถมาลงทะเบียนที่ตนเองได้ โดยจะพิจารณาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามความเดือดร้อนเร่งด่วน
ขณะที่ นางกนกนุช กล่าวว่า ได้ผลักดันการแก้ไขปัญหาลอกคู-คลอง ดักท้องคลอง ทำประตูระบายน้ำในคูนายกิม สาย 2 ซึ่งได้งบประมาณในการขุดลอกและเปิดทางระบายน้ำ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในแขวงสีกันได้
ส่วน นายประภัสร์ กล่าวว่า จากการติดตามรายงานข่าว พายุอาจจะเข้ามาอีกหลายระลอก การเตรียมงานของภาครัฐในการรับมือกับสถานการณ์ผลกระทบน้ำท่วมสำคัญเป็นอย่างมาก ต้องประสานงานอย่างใกล้ชิด รัฐบาลต้องเป็นแบบอย่าง ไม่ใช่ต่างคนต่างทำเหมือนที่ผ่านมา