เมื่อวันที่ 11 ส.ค. น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ โฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการดูแลผู้ประกันตนป่วยโรคโควิด-19 ว่า กรณีผู้ประกันตนได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด อยู่ในกลุ่มอาการสีเขียวต้องกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) และผู้ประกันตนติดเชื้อเข้ารักษาในสถานพยาบาล และต้องกลับมากักตัวที่บ้านต่อจนครบกำหนด สำนักงานประกันสังคม จะมีการจ่ายบริการทางการแพทย์แก่สถานพยาบาลและแพทย์ผู้ดูแลรักษาผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ตามประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ดังนี้ 1.ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2.ค่าดูแลการให้บริการผู้ประกันตนที่ป่วย โดยเป็นค่าใช้จ่ายรวมค่าอาหาร 3 มื้อ การติดตามประเมินอาการ และการให้คำปรึกษา เหมาจ่าย 1,000 บาท/วัน ไม่เกิน 14 วัน 3.ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น ค่าปรอทวัดไข้ เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น ค่าชุด PPE สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ 4. ค่ายาที่ใช้รักษา 5. ค่าพาหนะเพื่อรับหรือส่งต่อผู้ป่วยระหว่างที่พัก โรงพยาบาลสนาม และสถานพยาบาล 6. ค่าบริการ X-ray ทรวงอก

น.ส.ลัดดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เมื่อกรณีผู้ประกันตนติดเชื้อฯ เข้ารับการดูแลผ่านสถานพยาบาล การดูแลในชุมชน (Community Isolation) รพ.สนามในโรงงานหรือสถานประกอบการ (Factory Accommodation Isolation : FAI) สามารถขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่รับผิดชอบการรักษาได้ หรือบันทึกภาพหน้าจอจาก Application Line หรือโปรแกรมอื่นใด ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับสถานพยาบาล หรือสถานที่ดูแลรักษา และสำเนาเวชระเบียนที่ได้จากการบันทึกหน้าจอจากไลน์ หรือโปรแกรมอื่นๆ โดยมีรายละเอียดระบุวันที่เริ่มรักษา จนสิ้นสุดการรักษา รวมไปถึงการให้หยุดพักรักษาตัวต่อ เพื่อใช้ประกอบการเบิกเงินค่าทดแทนการขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมได้อีกด้วย

โฆษก สปส. กล่าวต่อว่า สำหรับเงื่อนไขการเบิกค่าทดแทนการขาดรายได้นั้น ผู้ประกันตนต้องมีการนำส่งเงินสมทบ 3 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนใช้สิทธิ และพิจารณาตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน คือกรณีลาป่วย 30 วันแรกรับค่าจ้างจากนายจ้าง หากมีความจำเป็นต้องหยุดพักรักษาตัวนานเกินกว่า 30 วัน สามารถเบิกสิทธิประโยชน์กรณีขาดรายได้จากสำนักงานประกันสังคมได้ ตั้งแต่วันที่ 31 ของการลาป่วยเป็นต้นไป ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง (จ่ายครั้งละไม่เกิน 90 วัน 1 ปีปฏิทิน แต่ไม่เกิน 180 วัน) ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถยื่นเบิกขาดรายได้ภายใน 2 ปี เมื่อรักษาหายจากอาการเจ็บป่วยแล้ว ให้ติดต่อขอรับประโยชน์ทดแทนได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ทุกแห่งทั่วประเทศตามที่ท่านสะดวก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง.