เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.วาสนา จาดเกิด อายุ 42 ปี อาศัยอยู่บ้านเช่าภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.57 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเป็นชายอายุประมาณ 15-18 ปี จำนวน 5 คน ขี่รถ จยย. มา 2 คัน ตะโกนท้าทายคนในบ้าน และใช้อาวุธมีดและง้าว ที่พกติดตัวมาฟันไปที่ประตูรั้ว ก่อนจะใช้เท้าถีบประตูเหล็กหน้าบ้านจนพังเสียหาย แล้วได้บุกรุกจะเข้ามาในบ้านเอามีดมาฟันลูกสาวอายุ 18 ปี กับเพื่อนผู้ชายรุ่นน้องอายุ 14 ปี ที่อยู่ในบ้าน ก่อนจะใช้อาวุธมีดฟันรถ จยย. ที่จอดอยู่เสียหาย 3 คัน ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง แต่คดีไม่คืบ
ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี กล่าวว่า วันที่ 12 ก.ย. ช่วงบ่าย ตนขี่รถ จยย. ออกไปร้านสะดวกซื้อกับเพื่อน 2 คน พอจะกลับเลี้ยวรถเข้ามาในหมู่บ้าน ได้มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ขี่ จยย. ซ้อนท้ายกันมา โดยไม่รู้ว่ามาจากไหน ขี่รถตามมาแล้วชักมีดไล่ฟัน ตะโกนด่าเพื่อนตนและไล่กวด ทำท่าจะฟัน ตนกับเพื่อนหนีจนรถล้ม จากนั้นเลยรีบหนีเข้าไปในหลบป้อมยาม และบอกให้คนช่วย พอกลุ่มวัยรุ่นเห็นรถล้มเลยหนีไป เลยรีบวิ่งไปเก็บเอามือถือของตนที่ตกอยู่ กระทั่งมาเกิดเหตุอีกเมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 5 ทุ่มกว่า พวกกลุ่มวัยรุ่นที่มาหาเรื่องได้ขี่รถ จยย. มาที่บ้าน พกอาวุธเข้ามาพังบ้าน ตีรั้ว พังรถที่จอดในบ้าน และจะฟันพี่ผู้หญิง แต่แม่เข้ามาห้ามทัน วันนั้นตนไม่ได้ลงมา หลังจากฟันรถแล้วหนีไปเลย ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกัน
น.ส.บี (นามสมมุติ) กล่าวว่า วันที่ 12 ก.ย. เวลาประมาณ 13.00 น. รุ่นน้องตนขี่รถไปแล้วบอกว่าโดนวัยรุ่นถือมีดไล่กวดจนรถล้ม มีแผลที่ขาหลายแห่ง ถามว่าใครทำ ขี่รถอะไร เขาบอกฮอนด้า คลิก สีขาวตัวใหม่ ซึ่งตนมีเฟซบุ๊กของคนที่น่าสงสัยจะก่อเหตุ จึงโทรฯ ไปถามว่าใช่มั้ย เขาตอบว่าใช่ แล้วก็ท้าทายบอกว่าให้ออกมาเจอใหม่มั้ย เลยถามกลับว่ารุ่นน้องไปทำอะไรให้ เขาก็บอกให้ออกไป คนที่ก่อเหตุชื่อเทนกับฟิล์ม สักตรงคอทั้ง 2 คน เขาบอกกับตนว่า “ไม่ออกมาเดี๋ยว..ไปหายันบ้านเลยนะ เมื่อกี้วนไปดูแล้วมีรถจอดหน้าบ้าน 3-4 คัน” ก็ตกใจว่าเขารู้ได้ยังไงว่าบ้านตนหลังไหน หลังจากนั้นประมาณเกือบเที่ยงคืนวันที่ 13 ก.ย. กลุ่มวัยรุ่นได้ขี่รถ จยย. มากัน 5 คน คันแรกนั่งซ้อนท้ายกันมา 2 คน ไม่ใส่หมวกกันน็อก ส่วนอีกคันซ้อนท้ายกันมา 3 คน ใส่หมวกกันน็อก มีมีด มีง้าว เข้ามาทำลายรั้วบ้านและฟันรถ และตะโกนมาว่า “ไหน คนไหนออกมาดิ” ก็ให้น้องล็อกบ้าน แล้วตนลงมาจากบ้านคนเดียว กลุ่มวัยรุ่นก็ทำท่าเงื้อมีดจะฟัน แล้วหนีไปขึ้นรถเลย รู้จักแค่ 2 คน ส่วนอีก 3 คนไม่รู้จัก ไม่ทราบว่าไปทำอะไรให้ หรือรุ่นน้องไปทำอะไรให้ แต่ก็ไม่ยอมบอกเหตุผล ตอนนี้ยังติดต่อได้ แต่ไม่ได้ไปทักอะไร ก็กลัวจะมาอีก พวกกลุ่มดังกล่าวมีโทรฯ มาระรานกับรุ่นน้องอีกคน บอกว่าให้บอกลูกพี่เองออกมาหาหน่อย ซึ่งนั่นหมายถึงตน ก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไร
น.ส.บี กล่าวต่อว่า ผู้ก่อเหตุอายุประมาณ 17-18 ปี มาทำแบบนี้ก็รู้สึกกลัว กลัวน้องจะเป็นอะไรด้วย เวลาออกไปไหน ออกจากบ้านไปซื้อของ ตอนนี้จะย้ายบ้านแล้ว เพราะรู้สึกกลัวว่าจะกลับมาระรานอีก รู้จักแต่คนชื่อเทน เพราะเป็นเพื่อนกันมาก่อน ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับเขา ซึ่งไม่แน่ใจว่าสาเหตุเพราะอะไร วันนั้นน่าจะจำรถตนได้ เลยมาไล่รุ่นน้องที่ขี่รถตนไปซื้อของ ตอนที่โทรฯ ไปก็พูดดีด้วย บอกรุ่นน้องไปกวน ซึ่งรุ่นน้องบอกว่าเขากวักมือเรียกและชักมีดไล่กวดมา ตามเข้ามาในหมู่บ้านและวนออกไป รุ่นน้องหนีจนขี่รถไปชนกระถางต้นไม้บนฟุตปาธ
ขณะที่ น.ส.วาสนา กล่าวอีกว่า รู้สึกกังวลเวลาลูกๆ ออกไปไหน ไปซื้อของกิน กำชับพวกเด็กๆ ให้ล็อกบ้านตลอด ขนาดล็อกบ้านยังบุกเข้ามาฟันเลย แล้วตนมีลูกสาวด้วย ได้รับความเสียหายคือรถ จยย. 3 คัน โดนฟัน พังประตูรั้วบ้าน เขาจะฟันลูกสาวด้วย แต่ตนออกมาพอดี อีกคันเอาไปซ่อมอยู่ที่ร้านหน้าปากซอย จะย้ายบ้านหนีเพราะกลัว จะไปหาหมู่บ้านที่อยู่มิดชิด มี รปภ.คอยดูเข้า-ออก ตนมีลูกสาว 2 คน อยู่ด้วยกันในบ้าน 4 คน มีตน มีลูกสาว 2 คน และเพื่อนลูกสาว ไม่เคยมีเรื่องกับใคร วันๆ ก็ขี่รถไปซื้อผ้าที่ตลาดนกฮูกและกลับมาขายออนไลน์ในบ้าน เด็กผู้ชายคนนี้เป็นรุ่นน้องของลูกสาว เพิ่งจะมาอยู่ได้อาทิตย์เดียวเอง เชื่อว่าไม่น่าจะไประรานใครได้ เขาอยู่แต่ในบ้าน อยู่บ้านก็เห็นเขาตลอด ส่วนมากไม่ค่อยให้ขี่รถ จยย. เพราะเขายังเด็กอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเลย ซึ่งไปแจ้งความตั้งแต่คืนแรกที่เกิดเหตุแล้ว อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้ อย่ามาทำแบบนี้ ลูกเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย ไม่น่าบุกเข้ามาในบ้านแบบนี้ ตอนเกิดเหตุหลับอยู่ในบ้าน พวกเด็กๆ ก็กังวลว่าเด็กที่ก่อเหตุจะมา วันเกิดเหตุลูกสาวก็ระแวงดูหน้าต่างตลอด แล้วก็มาเจอจริง เลยรีบวิ่งตามลูกสาวออกมา เขาเห็นตน เลยขอเขาบอกอย่ามาทำลูกสาว วันนั้นสายตรวจมา เป็นจังหวะเดียวกับทางคนที่บุกบ้านโทรฯ มา ก็ยื่นให้คุยด้วยก็ไม่คุย ทุกวันนี้ต้องให้เพื่อนมาช่วยเฝ้าบ้าน เพราะกลุ่มวัยรุ่นบอกจะมาอีก และยังโทรฯ มาเยาะเย้ย ระรานตลอด
“เช่าบ้านหลังนี้ได้ 4 เดือน เดือนละ 5,000 บาท คงต้องย้ายออก เกรงจะไม่ปลอดภัย อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ไวๆ เพราะทุกวันนี้อยู่อย่างหวาดผวา ระแวงไม่กล้าออกไปไหน ต้องอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากลูกตัวเองเป็นผู้หญิง กลัวจะเกิดอันตราย” น.ส.วาสนา กล่าว
