เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ จ.ขอนแก่น ของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยมี นางสาวสุภัทรา ชัยเทวารัณย์ ผู้ตรวจราชการกรมฯ นายสุวพงษ์ ภูนาคพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง นายอดิเรก วัฒนาอุดมชัย โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดขอนแก่น นายวิทวัส วงศ์เครือศร วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชน ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายทรงศักดิ์ เปิดเผยว่า การเดินทางมาตรวจราชการในครั้งนี้ เพื่อมาดูสภาพพื้นที่ของสภาพตลิ่งริมแม่น้ำพองที่เกิดการกัดเซาะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินพร้อมทั้งรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน รวมถึงความต้องการของพื้นที่ และติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 3 จุดโดยจุดที่ 1 ได้ติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำพอง บ้านบึงฉิม หมู่ 4 ต.บึงเนียม อ.เมืองขอนแก่น แผนงานงบประมาณปี 2567 ความยาว 600 เมตร รูปแบบของโครงการเป็นแบบเขื่อนชนิดตอกเสาเข็ม สันเขื่อนเป็นคานรัดหัวเสาเข็ม ราวกันตก บ่อพักพร้อมท่อระบายน้ำ และคันดินถมตลอดด้านหลัง แนวสันเขื่อน หน้าเขื่อนทิ้งหินใหญ่เอียงตามแนวลาดตลิ่ง 1:1.5 จนจดดินเดิม และงานก่อสร้างบันได ค.ส.ล. ขึ้น-ลงหน้าเขื่อน จํานวน 2 แห่ง
จุดที่ 2 บ้านดงพอง หมู่ 10 (ช่วงที่ 2) ตําบลศิลา อ.เมืองขอนแก่น แผนงานงบประมาณปี 2567 ความยาว 300 เมตร รูปแบบก่อสร้างเป็นเขื่อนชนิดตอกเสาเข็ม สันเขื่อนเป็นคานรัดหัวเสาเข็ม ราวกันตก บ่อพักพร้อมท่อระบายน้ำ และคันดินถมตลอดด้านหลังแนวสันเขื่อน พร้อมตอกเสาเข็ม เสริมกําลังดินบริเวณใต้ลาดหินทิ้งหน้าเขื่อน หน้าเขื่อนทิ้งหินใหญ่เอียงตามแนวลาดตลิ่ง 1:2 จนจดดินเดิม และงานก่อสร้างบันได ค.ส.ล. ขึ้น-ลง หน้าเขื่อน จํานวน 2 แห่ง และจุดที่ 3 บ้านห้วยทราย หมู่ 7 ตําบลบ้านดง อําเภออุบลรัตน์ แผนงานงบประมาณปี 2567 ความยาว 870 เมตร รูปแบบของโครงการเป็นแบบเขื่อนชนิดตอกเสาเข็ม สันเขื่อนเป็นคานรัดหัวเสาเข็ม ราวกันตก บ่อพักพร้อมท่อระบายน้ำ และคันดินถมตลอดด้านหลัง แนวสันเขื่อน หน้าเขื่อนทิ้งหินใหญ่เอียงตามแนวลาดตลิ่ง 1:1.5 จนจดดินเดิม และงานก่อสร้างบันได ค.ส.ล. ขึ้น-ลงหน้าเขื่อน จํานวน 2 แห่ง
โดยโครงการดังกล่าว เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถป้องกันการพังทลายของตลิ่งริมแม่น้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โบราณสถาน และพื้นที่เกษตรกรรมของประชาชนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ได้สั่งการให้เพิ่มในเรื่องการปรับภูมิทัศน์หลังเขื่อนบริเวณวัด เพื่อส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และรับรองการจัดกีฬาประเพณี เช่น การแข่งเรือยาว เพื่อเป็นการสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนต่อไป.
