เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่โรงแรมทาวน์ อิน ทาวน์ ดร.คณิศร สมมะลวน หัวหน้าพรรคประชากรไทย นายสุมิตร สุนทรเวช ประธานพรรค กรรมการบริหารพรรค คณะทำงานพิเศษ ร่วมกันแถลงความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง พร้อมเปิดตัวคณะทำงานพิเศษ (ทีมยุทธศาสตร์) และเปิดตัว แดน ดัสกร ดาวร้ายเมืองไทยร่วมงานการเมือง โดยมีสมาชิกพรรคประชากรไทย เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
ดร.คณิศร กล่าวว่า พรรคประชากรไทยเงียบ แต่ไม่ได้ให้ไปไหน ไม่เคยหยุดหรือทอดทิ้งประชาชน วันนี้กลับมาและมีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งที่จะถึงนี้อย่างเต็มที่ พร้อมส่งครบทุกเขต ทั้ง 400 เขตทั่วประเทศ และเน้นทุกๆ พื้นที่เหมือนกัน อย่างพี่น้อง กทม.รู้ดีว่า ในสมัยของนายสมัคร สุนทรเวช นั้นได้สร้างผลงานเอาไว้มากมาย ซึ่งทุกๆ รัฐบาลเอง ก็ได้ทำตามนโยบายเหล่านั้น ดังนั้นเราจึงมั่นใจและตั้งเป้ามองเขตใหม่ๆ เป็นหลัก และ ส.ส.บัญชีรายชื่อเอง ไม่ว่าจะใช้สูตรหารอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้กังวล เราก็พร้อมสู้ และมีความหวัง และพร้อมเป็นผู้นำรัฐบาล พร้อมเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งนี้หากพรรคประชากรไทยได้เป็นรัฐบาล จะเดินหน้า 3 พัฒนา คือ 1. พัฒนาผลิตภัณฑ์เกษตร เป็นสินค้าเชิงอุตสาหกรรม มีกองทุนรักษาเสถียรภาพทางการเกษตร เพื่อให้ทำได้ยั่งยืน ไม่ขาดทุน 2.พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร เป็นธุรกิจ และ 3.พัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เน้นชาวต่างชาติท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยให้วีซ่าอยู่ยาว 6 เดือน ถึง 1 ปี
“พรรคคือเราไม่เป็นศัตรูกับพรรคการใดพรรคการเมืองหนึ่ง ถ้าจะหนุนใครเป็นนายกฯ ก็คงเป็นคนของพรรคเราเอง นั่นคือหัวหน้าพรรค คือแคนดิเดตคนแรก หลังจากวันนี้ จะมีการแกรนด์โอเพนนิ่งใหญ่ราวๆ ปลาย ต.ค. หรือต้น พ.ย.นี้ และลงพื้นที่ต่อเนื่อง” ดร.คณิศร กล่าวและว่า จากนี้จะมีการอบรม ในเรื่องการหาเสียง การโฆษณา การพูดนโยบายพรรคไม่ให้ผิดกฎหมาย
นายสุมิตร กล่าวว่า นับตั้งแต่ ดร.คณิศร เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค แล้วก็ช่วยฟื้นฟูพรรคให้ดีขึ้น สมาชิกเพิ่มขึ้น ทำตามกติกาของ กกต.ทุกอย่าง พร้อมส่งผู้สมัครทั่วประเทศ นับแต่วันนี้พร้อมแล้ว และจะสานต่อนโยบายเพื่อประชาชนจะเรียกว่า “สมัครโมเดล” ก็ได้ และยังมีนโยบายใหม่ๆ อีกเยอะ
ด้าน นายนีซานท์ จันต์ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.เขตธนบุรี พรรคประชากรไทย กล่าวว่า ตนเป็นผู้สมัครชาวไทย-อินเดีย อยู่ประเทศไทยมาเป็นรุ่นที่ 3 มาอยู่ประเทศไทย เป็นประเทศที่ดีที่สุด มีสุขที่สุด ทำใฟ้นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาที่ไทย แต่ระยะหลังๆ 5-10 ปี แย่ลง คนไม่มีกิน ค่าน้ำค่าไฟแพง จะไม่ไหวกัน นโยบายที่จะทำคืออาจจะเน้นระบบแบบอินเดีย คือการมีส่วนลดค่าไฟ ค่าน้ำสำหรับคนจน และนักศึกษา เพื่อให้ชีวิตดีขึ้น เพราะทุกวันนี้เจอแต่ทุกข์ กว่าจะเอาตัวเองรอดได้ ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะร้องไห้กับใคร หวังว่านโยบายนี้จะทำให้ชีวิตคนดีขึ้น เศรษฐกิจฐานราก ต่อยอดความร่วมมือกับทางอินเดียซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนมากขึ้น ตอนนี้เป็นซูเปอร์เพาเวอร์หนึ่ง ก็อยากให้ไทยอยู่ในท็อปสิบด้วย
ขณะที่นายศีลธรรม ปัญญาวรชาติ ว่าที่ ผู้ลงสมัคร ส.ส.จังหวัดชลบุรี พรรคประชากรไทย กล่าวว่า นโยบายที่ตั้งไว้ คือการผลักดันให้จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เป็นอเมซิ่งที่สุดที่เคบเกิดขึ้นในประเทศไทย ทุกคนต้องมีงานทำ เพราะปากท้องประชาขนสำคัญมาก ต้องส่งเสริมการมำงาน ประกอบอาชีพในชุมชน การศึกษาต้องดี นักท่องเที่ยวปักหมุดว่าจะต้องมาที่นี่ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีนโยบายที่ดีอีกมากที่จะทยอยออกมา
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงข่าว ระหว่างที่มีการถ่ายรูปหมู่ ของบรรดาสมาชิกพรรคได้มีการนำแมว 2 ตัว เข้าไปร่วมเฟรมด้วย เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชากรไทย ที่เปรียบเสมือนแมวเก้าชีวิต เป็นพรรคเก่าแก่ถึง 44 ปี ที่ยังดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอยู่.
