เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นางเพ็ญจันทร์ (สงวนนามสกุล) ภรรยาหลวง อายุ 61 ปี ชาวจ.อุดรธานี พร้อมญาติพี่น้องได้เดินทางมามอบตัวกับตำรวจ หลังจากกลายเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา โดยให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนเข้าไปตามหา นายทองใบ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี สามีของตนในบ้านพักของ นางวิไล (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ภรรยาน้อย แต่กลับมีปากเสียงกันอย่างหนักก่อนจะเกิดการต่อสู้กันขึ้น ซึ่งฝ่าย นางวิไลฉวยท่อนไม้มาฟาดใส่ตนหลายครั้งทั้งที่แขนและตามร่างกาย ทำให้ตนต้องชักมีดปอกผลไม้ในกระเป๋าออกมาแทงสวนไป 1 ครั้ง จนอีกฝ่ายทิ้งไม้ล้มตัวลงนอน ตะโกนเรียกสามีและลูกให้รีบพาไปส่งรพ.ก่อนจะสิ้นใจ หลังเกิดเหตุตนได้เดินทางไปรักษาตัวที่โดนทำร้าย ก่อนจะเดินทางมามอบตัว

นางเพ็ญจันทร์ ให้การด้วยว่า ตนมีอาชีพทำนา แต่งงานอยู่กินกับนายทองใบ มานานกว่า 40 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ชาย 1 หญิง 2 ส่วนสามีทำงานก่อสร้าง เมื่อ 9 ปีที่แล้ว สามีปันใจไปคบหากับ นางวิไล อย่างเปิดเผย เพราะทั้งสองทำงานก่อสร้างด้วยกัน ช่วงแรกสามียังกลับมาที่บ้านพัก แต่ระยะหลังเริ่มหายไป มารู้อีกครั้งก็พบว่าไปอาศัยอยู่กับภรรยาน้อยอย่างไม่เกรงใจ พอกลับบ้านก็ดื่มเหล้าจนเมาหาเรื่องทะเลาะกับตน ด่าทอตนด้วยคำหยาบคาย กระทั่งสามีบอกว่าจะไปทำงานก่อสร้างต่างจังหวัด 1 ปี และจะกลับมาอยู่ด้วย พอเวลาผ่านไป 1 ปี ตนได้ข่าวว่าคนงานเริ่มกลับมากันแล้ว จึงไปตามหาสามีที่บ้านภรรยาน้อย กลับถูกอีกฝ่ายกีดกันต่อว่าด่าทอ ฉวยไม้ทุบตีกระทั่งเกิดการต่อสู้กันขึ้น จนมาจบลงที่อีกฝ่ายภรรยาน้อยเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร แต่ยังไม่มีการควบคุมตัวนางจันทร์เพ็ญ เนื่องจากไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งจะได้นัดไปศาลเพื่อฝากขังตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.
