เมื่อวันที่ 26 ก.ย. นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีจะเชิญ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. มาให้ข้อมูล กมธ. ในวันที่ 28 ก.ย.65 ว่า กมธ.อยากทราบข้อมูลข้อปฏิบัติเรื่องการหาเสียงในช่วง 180 วัน ก่อนครบวาระ 4 ปี สภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 มี.ค.65 ว่ามีเงื่อนไขใดบ้างที่ ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. และ กมธ.ต้องปฏิบัติ ทั้งกรณีการยุบสภา กรณีรัฐบาลอยู่ครบวาระ หรือช่วงที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นช่วงระหว่าง ส.ส.กับ กมธ.ต้องปฏิบัติภารกิจ อยากให้ กกต.ชี้แจงให้ชัดอะไรทำได้ ทำไม่ได้ หรือทำได้แค่ไหน รวมไปถึงการติดป้ายต่างๆ ที่กำลังมีปัญหาด้วย ตลอดจนระเบียบปฏิบัติต่างๆ ที่ทำตามประเพณีจะทำได้หรือไม่ได้ กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว กมธ.กิจการสภาฯ จะออกหนังสือเวียนแจ้งให้ กมธ.สามัญทั้ง 35 คณะ รับทราบ จะได้ปฏิบัติได้ตรงกัน ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงกฐิน มีการทำบุญตามประเพณี งานบวช งานแต่ง จะทำได้หรือไม่ กลัวชาวบ้านไม่เข้าใจ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่า อะไรที่ทำไปแล้วสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย
ขณะที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสจับจ้องการลงพื้นที่ของรัฐมนตรี และการขึ้นป้ายของ ส.ส.พรรค หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกฎเหล็ก 180 วัน ว่า พรรคพลังประชารัฐได้นัดประชุม ส.ส. พรรคในวันที่ 28 ก.ย.65 เวลา 15.00 น. ณ ที่ทำการพรรค เพื่อจะชี้แจงและให้ข้อมูลกับ ส.ส.เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติตัวของ ส.ส. ตามประกาศ กกต.ประกาศ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิด
“การกล่าวหา หรือมีใครจับจ้อง โจมตีพรรค มองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล เป็นสิทธิของแต่ละคน การจะตรวจสอบอะไร ถือเป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่มั่นใจและยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐ ระมัดระวังและดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามที่ กกต.กำหนด”
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่มีเสียงวิจารณ์พรรคแกนนำรัฐบาล อาจใช้ความได้เปรียบของฝ่ายบริหาร ในการลงพื้นที่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่การลงพื้นที่ไปปฏิบัติงานของรัฐมนตรี ถือว่าเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ต้องทำหน้าที่ โดยมีระเบียบปฏิบัติตามข้อกฎหมายกำกับไว้ให้ทำได้หรือไม่ อย่างไร และเชื่อว่าทุกคนระมัดระวังตัวอยู่แล้วไม่ให้สุ่มเสี่ยงที่จะถูกร้อง.