สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่าองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ( เอสโอเอชอาร์ ) รายงานความคืบหน้าของเหตุเรือโดยสารผู้อพยพ มีทั้งชาวซีเรีย ชาวเลบานอน และชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเดินทางมาจากเลบานอน อับปางใกล้กับชายฝั่งของเมืองตาร์ตุส ทางตะวันตกของซีเรีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 102 ราย และหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ประมาณ 20 คน แต่ยังคงมีผู้สูญหายอีกประมาณ 40 คน ซึ่งทุกฝ่ายกำลังร่วมกันเร่งค้นหา
Death toll of capsized Lebanese boat rises to 102.
— Joshua Landis (@joshua_landis) September 26, 2022
Survivors taken to Tartus, Syria.
The collapse of both the Lebanese and Syrian economies are driving ever more to risk dangerous migrations.
https://t.co/syWAHM7a6R via @middleeastmnt

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอชซีอาร์ ) ระบุว่า เส้นทางที่เกิดเหตุเรียกว่า “เส้นทางเลบานอน-ไซปรัส” และมีความถี่ของการอพยพทางเรือมากขึ้น นับตั้งแต่เลบานอนเผชิญกับวิกฤติทางเศรษฐกิจ เมื่อปี 2562
The death toll reaches 86 people after a boat carrying migrants from Lebanon to Syria sank off the Syrian coast in one of the deadliest recent shipwrecks in the eastern Mediterranean.
— Middle East Eye (@MiddleEastEye) September 24, 2022
At least 20 people have been rescued and search efforts are continuing. pic.twitter.com/xDbskrf63z
ขณะที่ระหว่างเดือนม.ค. 2563 – มิ.ย. 2564 มีผู้อพยพทางเรือ 1,162 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวซีเรีย พยายามล่องเรือผ่านเส้นทางดังกล่าว อย่างไรก็ตาม มีเพียงหนึ่งในสามที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ของเลบานอน เจ้าหน้าที่ของไซปรัสผลักดันกลับ หรือเรือเกิดขัดข้องและอับปาง.
เครดิตภาพ : REUTERS