ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกอายุรกรรม โรงพยาบาลตราด นายวินัย บรรจงการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด เป็นประธานเปิดคลินิกอายุรกรรม มีแพทย์ และพยาบาลร่วมให้การต้อนรับ นายแพทย์ควรคิดณัฐฐา อรุณศรี หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด โรงพยาบาลตราด กล่าวว่า จากฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการด้านสุขภาพจิตและสารเสพติดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กระทรวงสาธารณสุข ได้มีแผนพัฒนาระบบริการสุขภาพจิตและยาเสพติด โดยกำหนดเป้าหมายการบริการ ให้ผู้ป่วยที่มีภาวะวิกฤติฉุกเฉินทางด้านสุขภาพจิตได้รับการดูแลอย่างครอบคลุม มีนโยบายให้มีการเปิดหอผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป เพื่อให้ผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติด ที่เสี่ยงต่อการก่อความรุนแรงและมีภาวะเร่งด่วนฉุกเฉินได้รับการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


นายวินัย กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราการฆ่าตัวตายของชาวตราด อันมีสาเหตุมาจากความเครียด การเสพยาเสพติด มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และนำไปสู่การฆ่าตัวตาย ซึ่งจังหวัดตราดมีอัตราการฆ่าตัวตายมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศแล้วในขณะนี้ โดยปัญหาสุขภาพจิตที่สำคัญของจังหวัดตราด ได้แก่ ปัญหาการฆ่าตัวตายสำเร็จ พบว่ามีแนวโน้มสูงขึ้น อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ 2563 ถึง 2565 มีอัตราเท่ากับ 8.70, 6.56 และ 10.88 ต่อแสนประชากร ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่มีปัญหาอารมณ์ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง จากโรคทางจิตเวชและจากการใช้สารเสพติดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคนไข้จิตเวชเหล่านี้จะต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วนเพราะอาจจะเกิดอันตรายกับบุคคลใกล้ชิด ทางฝ่ายปกครองและฝ่ายดูแลจึงต้องเร่งดำเนินการเปิดคลินิกจิตเวชขึ้นให้เร็วที่สุดเพื่อดูแลรักษาคนไข้กลุ่มนี้ อีกทั้งยังสามารถอำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้ป่วยที่ไม่ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า หรือที่ศูนย์คนไข้จิตเวชที่ จ.สระแก้ว ในรายที่มีอาการป่วยรุนแรงด้วย 


“กลุ่มคนไข้จิตเวชเป็นคนไข้ที่จะต้องเปิดตึกหรือห้องพิเศษเพราะคนไข้มักจะมีอาการรุนแรง จึงต้องมีความปลอดภัย และมีความแข็งแรง ซึ่งวันนี้ กลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด และกลุ่มการพยาบาลจึงได้เปิดบริการ หอผู้ป่วยจิตเวชจำนวน 14 เตียง สำหรับผู้ป่วยจิตเวช ผู้ที่มีความผิดปกติของความคิด มีปัญหาอารมณ์ พฤติกรรม ก้าวร้าวรุนแรง ให้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที ในสถานที่ที่มีความปลอดภัย มีการเฝ้าระวังความเสี่ยงเป็นพิเศษ ได้มาตรฐาน และช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้น”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด กล่าวอีกว่า สำหรับญาติที่ใกล้ชิดควรจะดูแลและเฝ้าสังเกตบุตรหลาน หรือคนใกล้ชิดหากมีอาการมีอาการเครียดมากกว่าปกติ มีการสื่อสาร ซึมเศร้า และเก็บตัว จากปัญหาหนี้สิน ความรุนแรงในครอบครัว เป็นปัจจัยสำคัญที่จะฆ่าตัวตายมากขึ้น.