เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ขร. ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.), บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC, บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (AERA1) เพื่อหาแนวทางการดำเนินงานกรณีระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง และการจัดการการระบายอากาศภายในขบวนรถขนส่งทางราง โดยมีกรณีศึกษาของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่เกิดเหตุระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการดำเนินงานกรณีระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้องและการจัดการการระบายอากาศภายในขบวนรถขนส่งทางราง เมื่อเกิดเหตุรถขัดข้อง โดยได้แนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ 1. ประชาสัมพันธ์แจ้งให้ผู้โดยสารในขบวนรถทราบถึงเหตุการณ์ขัดข้องที่เกิดขึ้น และแนวทางปฏิบัติต่อเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว รวมถึงประชาสัมพันธ์สถานการณ์แก้ไขปัญหา และแนวทางปฏิบัติให้ผู้โดยสารทราบเป็นระยะ เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้โดยสารขณะติดอยู่บนขบวนรถ

2. เมื่อเกิดเหตุการณ์ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง ระบบระบายอากาศภายในขบวนรถต้องสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 45 นาที หรือมีช่องที่สามารถเปิดให้อากาศภายนอกไหลผ่านได้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย 3. ตรวจสอบแบตเตอรี่สำรอง หรือแหล่งจ่ายไฟสำรองภายในขบวนรถ ให้มีสภาพพร้อมใช้งานเมื่อระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง โดยอุปกรณ์ดังกล่าวต้องมีพลังงานเพียงพอสำหรับการทำงานของระบบที่จำเป็นต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและขบวนรถ เช่น ระบบห้ามล้อ ระบบระบายอากาศ ระบบส่องสว่าง ระบบเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ ระบบอพยพ และระบบติดต่อสื่อสาร

4. กรณีหากไม่สามารถนำรถไฟฟ้าไปยังสถานีถัดไปได้ ไม่ว่าด้วยการขับเคลื่อนเองหรือต่อพ่วง หรือเมื่อระบบระบายอากาศไม่สามารถทำงานได้ หรือต้องใช้เวลาแก้ไขนานเกินควร ให้พิจารณาอพยพผู้โดยสารออกจากขบวนรถอย่างปลอดภัยไปยังสถานีที่ใกล้ที่สุด โดยมีเจ้าหน้าที่คอยกำกับดูแลการอพยพ 5. ให้ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าสำรวจจุดเสี่ยงที่อาจทำให้ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนเกิดการลัดวงจร และพิจารณาหาแนวทางป้องกันไม่ให้ระบบจ่ายไฟฟ้าขับเคลื่อนขัดข้อง ทั้งนี้ให้หน่วยงานผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าเตรียมพร้อมรับมือพายุที่กำลังเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการขนส่งทางรางได้

6. เมื่อเกิดปัญหาความขัดข้องของการเดินรถไฟฟ้า ที่ทำให้การเดินรถเป็นไปด้วยความล่าช้า เกิดการสะสมของผู้โดยสารตกค้างที่สถานี หน่วยงานที่ให้บริการให้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานผู้ให้บริการขนส่งมวลชนที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อส่งรถโดยสารประจำทางเข้ามาให้บริการในจุดที่เกิดปัญหา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมีทางเลือกเดินทางต่อไป และ 7. ดำเนินการฝึกซ้อมแผนการรับมือ และแผนรองรับในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน/ขัดข้อง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ทันต่อเหตุการณ์ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.