นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 4 ต.ค.65 ที่ระดับ 37.80 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 38.08 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 37.70-38.00 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับวันนี้ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ อย่าง ยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) โดยตลาดคาดว่า Job Openings อาจสูงกว่า 11 ล้านตำแหน่ง หรือเกือบ 2 เท่าของจำนวนผู้ว่างงาน สะท้อนภาพตลาดแรงงานสหรัฐ ที่ยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวและอาจยังทำให้เฟดสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อประเมินมุมมองของเฟดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย
หลังในสัปดาห์ที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดต่างออกมามาสนับสนุนการเร่งขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะคุมปัญหาเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ดี เราเริ่มเห็นเจ้าหน้าเฟดบางส่วนแสดงความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทำให้มีโอกาสที่เฟดอาจไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยไปมากกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด หากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ชะลอลงชัดเจนมากขึ้น พร้อมกับการปรับตัวลดลงของเงินเฟ้อ
สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดอาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทลงได้บ้าง อย่างไรก็ดี ต้องจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติว่าจะกลับมาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทย อย่างต่อเนื่องได้หรือไม่ นอกจากนี้ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวทะลุโซนแนวต้านแถว 1,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างต่อเนื่อง มองว่า โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรราคาทองคำก็อาจจะช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้บ้าง (หรือชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท) ในระยะสั้นนี้
ในส่วนภาพเทคนิคัลนั้น จะเห็นได้ว่า กราฟเงินบาท Daily และ Weekly อาจเริ่มเห็นสัญญาณ Bearish Divergence กำลังก่อตัวขึ้น ซึ่งอาจสะท้อนว่า เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นได้บ้างหรือแกว่งตัว sideways ในระยะสั้นนี้ อย่างไรก็ดี มองว่า สภาพคล่องในตลาดที่เบาบางในช่วงนี้ ยังคงมีส่วนที่ทำให้ เงินบาทยังคงมีโอกาสผันผวนและแกว่งตัวในกรอบที่กว้าง โดยโซนแนวรับของเงินบาทอาจอยู่ในโซน 37.50-37.70 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้นำเข้าต่างรอเข้าซื้อเงินดอลลาร์ ขณะที่บรรดาผู้ส่งออกอาจรอจังหวะทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 38.20-38.30 บาทต่อดอลลาร์
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” รายงานเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 37.90-37.92 บาทต่อดอลลาร์ (9.20 น.) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 38.13 บาทต่อดอลลาร์ โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐ หลังข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ ออกมาอ่อนแอกว่าคาด (ดัชนี ISM ภาคการผลิตลดลงไปอยู่ที่ 50.9 ในเดือน ก.ย. ต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 52.3 และต่ำกว่า 52.8 ในเดือน ส.ค.) นอกจากนี้เงินดอลลาร์ ยังเผชิญแรงขาย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษยกเลิกแผนการปรับลดภาษีเงินได้ในกลุ่มผู้มีรายได้สูง ทั้งนี้แม้เงินบาทจะขยับแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้า แต่ยังคงต้องระมัดระวังกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่อาจจะยังผันผวนในระหว่างวัน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้คาดไว้ที่ 37.70-38.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่กระแสเงินทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตลอดจนตัวเลขยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือน ส.ค. ของสหรัฐ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (อาจปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 bps.) และตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ส.ค. ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน