กรณี น.ส.สรารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี พบเป็นศพนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน ศีรษะมีบาดแผลแตก ในบ้านพักพื้นที่หมู่ 3 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีหลักฐานค้อนเปื้อนเลือดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานเป็นฝีมือสามีผู้ตายเองหลังเกิดเหตุได้หายตัวไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่ามือทุบ! สาววัย31พบเป็นศพถูกค้อนทุบหัวดับปริศนาคาห้องนอน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตนิชพงศ์ รอง ผบก.ก.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกูล ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.รุ่งระวี สุขัง ผกก.สภ.ปลายบาง พ.ต.ท.ธรรศ รัฐปัตย์ รอง.ผกก.สส.ส.ภ.ปลายบาง,พ.ต.ต.พรศักดิ์ ทุ่มสงคราม สว.สส.สภ.ปลายบาง ร่วมกันจับกุม นายไพโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 556/2562 ลง 3 ตุลาคม 2565 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา โดยจับกุมได้ในซอยสำเร็จพัฒนา 3 หมู่ 1 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

สอบสวนเบื้องต้น นายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุกินเหล้าขาวกันตั้งแต่ตอนเย็น กระทั่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายบอกว่าอยากกลับบ้านจ.เลย ซึ่งตนยังไม่อยากให้กลับและเคยคุยกันแล้วว่าจะกลับพร้อมกัน แต่ผู้ตายไม่ยอมพยายามจะกลับให้ได้ ตนจึงเอะใจคิดว่ามีคนอื่น เลยถามว่ารีบกลับบ้านหรือจะไปไหนกันแน่ จากนั้นก็เริ่มมีปากเสียงกันแย่งกระเป๋ากัน ตนเลยเอากระเป๋ากับบัตรเอทีเอ็มไปซ่อน และยืนยันว่ารอกลับพร้อมกันขอนอนก่อนเพราะเมา แต่ก็ยังดื้อพยายามจะหากระเป๋าเพื่อกลับให้ได้ เลยไปหยิบค้อนมาจะตอกประตูปิดตายไม่ให้ออกจากห้อง

นายไพโรจน์ เล่าอีกว่า ระหว่างนั้นผู้ตายพยายามจะออกไปให้ได้และคุยกันไม่รู้เรื่อง ระหว่างจะตอกประตูก็ยังไม่ยอมชวนทะเลาะ เลยทำท่าง้างค้อนจะตีแต่ไม่ตั้งใจจะตีจริงๆ แต่ผู้ตายด่าตนแรงๆและท้าทาย จึงเกิดฟิวส์ขาดโมโหประกอบกับเมาและมีค้อนอยู่ในมือจึงตีเข้าไปหลายครั้งแต่จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง พอตั้งสติได้ก็หยุดตีก็เสียชีวิตแล้ว ด้วยความเสียใจและรู้สึกผิดไม่ได้ตั้งใจ เลยนอนกอดศพอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงและขอโทษเขา เพราะรักเขามาก ที่ผ่านมาตนขายผัดไท ผัดกระเพราะ มีรายได้วัลนะ 3-4 พันบาท อยากได้อะได้ก็จะซื้อให้อยากได้ทองก็ซื้อให้ แต่เขาก็ชอบเอาไปจำนำ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ญาติเขาจะยืมเงินก็ส่งไปให้

ผัวมือค้อน ให้การว่า กระทั่งระยะหลังๆเจอวิกฤติโควิดรายได้ลดลงเงินไม่ค่อยมี แต่ไม่รู้เขาไปเอาเงินจากที่ไหนมาใช้ และเคยหนีตนไปครั้งหนึ่งนาน 4 วัน เลยเริ่มสงสัยและเคยระแคะระคายว่าเขามีคนใหม่แต่ก็ไม่มั่นใจ เพียงแต่เคยตอนอยู่บ้านเก่าก่อนย้ายมาที่เกิดเหตุเคยพบรอยเท้าคนแอบเข้ามาทางหลังบ้านซึ่งเป็นพื้นไม้มีรอยชัดเจน เลยเกิดความสงสัยแต่ก็จับได้ กระทั่งมาทะเลาะและก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งหลักก่อเหตุก็ไม่รู้จะไปไหนเลยขี่รถจยย.ไปเรื่องๆแถวตลาดบางใหญ่ แล้วคิดว่ายังไงก็ต้องโดนจับอยู่แล้วเลยขอทำใจให้สบายก่อน กระทั่งมาถูกจับกุม ยืนยันว่าสาเหตุมาจากความหึงหวงกับเรื่องเงิน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป