เมื่อวันที่ 7 ก.ย. น.ส.กานต์จรัส เอียดทองใส นายอำเภอแกลง พร้อมด้วย นายอธิพงษ์ ตันศิริ ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอแกลง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อส. เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณวัดเขาบ่อทอง (บน) ถนนสุขุมวิท ต.สองสลึง อ.แกลง จ.ระยอง หลังมีการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ต่างด้าว ซึ่งจำวัดอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่ โดยจะออกบิณฑบาต ในพื้นที่ตลาดสามย่าน และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะรับเฉพาะเงินสดเท่านั้น สร้างความเอือมระอาเป็นอย่างมาก

เมื่อนายอำเภอ และกำลังเจ้าหน้าที่ อส.เดินทางไปถึงวัดดังกล่าว ซึ่งอยู่บนเนินเขา ได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่า เมื่อพระสงฆ์ที่อยู่ภายในกุฏิเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ ต่างก็วิ่งหนีขึ้นไปในป่าบนเขา เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่จับกุมทันที แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ชินพื้นที่ ทำให้พระสงฆ์หนีการจับกุมไปได้นับสิบรูป สามารถจับกุมตัวได้ 5 รูป จึงควบคุมตัวทำการสอบสวน พร้อมตรวจค้นภายในกุฏิ ซึ่งเป็นกุฏิชั้นเดียว โดยพบว่า ผนังกุฏิมีการเขียนรายนามผู้บริจาคเป็นภาษาเขมร จนกลายเป็นวัดเขมรไปแล้ว

จากการสอบสวน พระทั้งหมด 5 รูป พบว่าเป็นพระต่างด้าว ไม่มีใบสุทธิ ทั้งหมดยอมรับว่าหลบหนีเข้าเมือง เป็นสัญชาติเขมร 5 คน ต่อมาได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ปรากฏว่า พบสารเสพติดจำนวน 2 ราย จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งพาทั้งหมดไปทำการสึกที่วัดบ่อทอง (ล่าง)

โดยมีการนิมนต์ พระครูเกษมอรรถากร รองเจ้าคณะอำเภอแกลง พระครูรังษี พรหมคุณ เจ้าคณะตำบลสองสลึง-ห้วยยาง และคณะสงฆ์ มาทำการสอบสวน พระนอกรีตทั้ง 5 รูป พบไม่มีใบสุทธิ ไม่ใบอนุญาตเข้าเมือง จึงทำการจับสึก และส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการขั้นตอนของกฎหมาย

จากการสอบสวน นายอ้วน อายุ 34 ปี (พระเขมร) และนายเมิน (พระเขมร) ได้ให้การว่า ตนเองบวชที่ประเทศกัมพูชา แต่จำชื่อวัดไม่ได้ หลบหนีเข้ามาอยู่ที่วัดแห่งนี้หลายปีแล้ว โดยมาช่วยกันสร้างวัด จะออกบิณฑบาตในตลาด โดยจะได้เงินวันละ 200-300 บาท ส่วนการเสพยาบ้า ตนเองซื้อมาเสพ โดยมีคนมาส่งให้ถึงวัด ราคาเม็ดละ 40 บาท เสพวันละ 2 เม็ด

ส่วนพระเถื่อนที่เหลืออีก 3 คน ยอมรับสารภาพว่า หลบหนีเข้าเมือง และเข้ามาอยู่ที่วัดแห่งนี้ก็ว่า 10 ปีแล้ว โดยมีการขายยาแผนโบราณ รวมถึงออกเรี่ยไร จนสามารถหาเงินมาสร้างกุฏิอยู่ร่วมกัน

ต่อมาจึงควบคุมตัวพระนอกรีตทั้ง 5 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านกร่ำ จ.ระยอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.