กำลังถูกจับตามองหนักมากในโลกออนไลน์ตอนนี้สำหรับกรณีที่นักร้องหนุ่ม โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เตรียมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงไปกลับไทย-ลาว 15 กิโลเมตร ในวันที่ 22 ต.ค.นี้ เพื่อระดมทุนช่วยเหลือเครื่องมือแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลไทย-ลาว ซึ่งหลังจากมีข่าวออกไปก็ทำเอาหลายคนดราม่าใส่หนุ่มโตโน่หลากหลายมุม ทั้งเห็นด้วยกับการทำความดีนี้และไม่เห็นด้วยที่เอาคนอื่นไปเสี่ยงด้วย เรียกว่าคอมเมนต์ร้อนแรงมากจริงๆ
ล่าสุดในอินสตาแกรมของ เมย์ ผู้จัดการของโตโน่ ได้มีการอัพเดทข้อความว่า “จากใจพี่กฤษณ ผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมเรื่องเล่าถึง “โตโน่”ผมเพิ่งวางสายกับ ผจก.โตโน่ ถามว่าเป็นไงบ้าง ในกระแสอันเชี่ยวกรากที่ออกมาแสดงความเห็นกัน ทางโน้นตอบอย่างหนักแน่นว่าสู้..วันนี้ผมในฐานะทีมงาน มีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟัง

1. “พี่ครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาสปอนเซอร์มาช่วยค่าจัดงานได้ไหม ถ้าไม่ได้ ผมก็จะจ่ายค่าจัดงานเอง ผมมีเงินทุนเท่านี้ครับ” นี่คือบทสนทนาในคืนหนึ่งที่เรานั่งคุยกัน น้องเริ่มต้นด้วยความพร้อม พร้อมที่จะจ่ายค่าจัดงานด้วยตัวเอง พร้อมที่จะออกแรงในการว่าย โดยจะไม่หัก คชจ.จากเงินบริจาค ผมถามกลับไปว่า ถ้าโน่จะออกเงินขนาดนี้ ทำไมไม่เอาไปบริจาคเลย น้องบอกว่า “ผมคิดว่าผมเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อระดมพลังของผู้คนมาช่วยกันน่าจะได้พลังที่ยิ่งใหญ่กว่า” นี่คือศรัทธาที่โตโน่ตั้งใจจริงๆ และผมก็อยากให้ทุกคนมองผ่านเรื่องการว่ายน้ำไปถึงความตั้งใจในการ “ให้” ซึ่งคือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงครับ
2. “ถ้ามันอันตราย..ก็ไม่ลงครับ” บทสรุปของโตโน่จากรายการโหนกระแส ผมอยากเล่าทุกคนฟังถึงการเตรียมงานว่า การว่ายน้ำครั้งนี้ เบื้องหลังนั้นมีผู้เชี่ยวชาญมากมาย ที่เราไม่ได้ไปกวนเขา แต่เขามาช่วยกันด้วยศรัทธา และที่นครพนมมีการจัดงานลงว่ายน้ำในแม่น้ำโขงอยู่แล้ว มีชมรมนกเป็ดน้ำที่ลงว่ายในแม่น้ำโขงทุกวัน มีทีม นรข.ผู้เชี่ยวชาญด้านแม่น้ำโขง แผนการว่ายมีการวางแผนอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำใกล้ชิดร่วมกับทีมโค้ชว่ายน้ำที่จะร่วมว่ายกับโตโน่ วางแผนร่วมกันทั้งเรื่องเส้นทาง เรื่องกระแสน้ำ จุดหยุดพักกลางน้ำ และการประเมินความเสี่ยงก่อนวันว่าย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ไม่ได้ทำกันผ่านๆ เหมือนที่หลายคนเขียนแสดงความเห็นว่าเรามักง่าย ผมอยากบอกด้วยความเห็นส่วนตัวของผมว่า ถ้ามันอันตรายเกินไปต้องมีผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในพื้นที่ออกโรงค้านแน่นอน และอยากยืนยันว่า การว่ายน้ำครั้งนี้ได้ประเมินร่วมกันแล้วว่า “เป็นไปได้” และมีสำรองแผนความปลอดภัยอย่างรัดกุมครับ กำลังหลักที่ต้องการคือกำลังของโตโน่ และกำลังใจจากทุกคนที่จะสนับสนุนคนดีให้มีแรงใจสร้างสิ่งดีเพื่อสังคมครับ
วันนี้น้องยังมีพลังใจอย่างเต็มเปี่ยม เราขอบคุณทุกความเห็นที่แสดงความเป็นห่วง ผมจึงขอชี้แจงในฐานะทีมงานว่าเราจะให้ความสำคัญกับทุกความปลอดภัย และอยากเชิญชวนทุกคนแปรความเป็นห่วงมาเป็นแรงสนับสนุนเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยทั้งสองโรงพยาบาลได้มีอุปกรณ์การแพทย์ที่ดี ผมเองทำอีเวนต์มายี่สิบปี มองได้ทะลุปรุโปร่งว่าใครแท้ใครเทียม อยากยืนยันว่า หัวใจโตโน่นั้นตั้งใจทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมจริงๆ ขอให้เชื่อมั่นและมาช่วยกันนะครับ ขอบคุณจากใจ”
หลังจากมีการอัพเดทข้อความไป แฟนๆก็ไม่พลาดมาไลค์และแสดงความเห็นสองมุมเช่นเคย อาทิ เหนื่อยใจอ่ะ ไม่อยากให้ทำ สงสารคนอื่น, ต้องดันเทรนด์ซัพพอร์ต เอาความจริงและความปรารถนาดีๆ ขึ้นแทนทัวร์แล้วนะคะ, ไม่ไหวไหม เจอทัวร์ลงแน่, ทัวร์ลงโน่แน่, อยากให้คิดถึงคนอื่นบ้าง, ไม่ไหวบอกไหวถูกไหม เป็นต้น

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม maenalinthon_family