เมื่อวันที่ 8 ต.ค. น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ สภ.นากลาง และ รพ.หนองบัวลำภู เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสังหารหมู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์

น.ส จิตภัสร์ กล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะที่ตนเป็นนักศึกษาปริญญาเอก ด้านอาชญาวิทยา ตระหนักและเล็งเห็นชัดเจนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเหตุการณ์รุนแรง แต่เป็นปัญหาสังคมที่หมักหมมที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมานาน เป็นภาพสะท้อนชัดถึงความรุนแรงทางสังคมในทุกมิติ จากสถิติการครอบครองอาวุธปืนในประเทศไทย รวมประชากรในอาเซียน 647 ล้านคน พบว่าคนไทย 68 ล้านคน มีอาวุธปืนในครอบครองของพลเรือนมากถึง 10,342,000 กระบอก สูงที่สุดในอาเซียน ถือเป็นอันดับที่ 13 ของโลก น่าตกใจไปกว่านั้น ในจำนวนกว่า 10 ล้านกระบอก เป็นปืนเถื่อนมากถึง 40% หรือประมาณ 4.1 ล้านกระบอก

น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองประธาน กมธ.การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ การก่อเหตุรุนแรง ก่ออาชญากรรมร้ายแรงด้วยอาวุธปืนเถื่อนในประเทศไทย มีอัตราการเกิดเหตุสูงถึง 77.5% จากการก่อเหตุประมาณ 3.5 หมื่นครั้ง แสดงว่ามีปืนเถื่อนเกลื่อนเมืองไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้องลงมือเริ่มต้นแก้ไขปัญหาที่ต้นตออย่างตรงจุด อย่างครบถ้วน ไม่ว่าเรื่องกฎหมาย การเมือง ไปจนถึงระบบการซื้อปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ กมธ.การตำรวจ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งเรื่องกฎหมาย การบริหารจัดการ หลักเกณฑ์การครอบครองอาวุธปืนในประเทศไทย

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหา ควรแบ่งเป็นหลายด้านด้วยกัน อาทิ ด้านความมั่นคง ต้องเพิ่มความเข้มงวดระเบียบหลักเกณฑ์การครอบครองอาวุธปืน กำหนดใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน การต่ออายุทุก 2-3 ปี โดยมีคณะกรรมการพิจารณาจากหลายภาคส่วน ให้การอนุมัติและเข้าถึงอาวุธปืนให้ยากขึ้น การลงโทษผู้ครอบครองและหรือใช้อาวุธปืนที่ไม่มีทะเบียน (ปืนเถื่อน) การติดตามผู้พ้นโทษที่เคยถูกจำคุกคดีความผิดที่เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน รวมไปถึงการตรวจสุขภาพจิตเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ครอบครองและใช้อาวุธปืนด้วย

ส่วนด้านการศึกษา ควรมีการเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชน เรื่องอันตรายของอาวุธปืน และการครอบครองอาวุธปืนอย่างถูกกฎหมาย และด้านสื่อต้องมีการกำกับติดตาม การเสนอข่าวหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนที่ไม่เหมาะสม ควบคุมการเผยแพร่ภาพ ฉาก ที่มีการถือหรือใช้อาวุธปืน โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ รวมไปถึงละเมิดสิทธิการถ่ายภาพของผู้ได้รับผลกระทบ.