เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมขอให้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ เพื่อเสนอญัตติด่วนในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กราดยิง จ.หนองบัวลำภูว่า ขณะนี้เหลือเวลา 2 สัปดาห์ จะถึงวันเปิดประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว

ส่วนตัวตนคิดว่าฝ่ายค้านควรรอใช้โอกาสในช่วงหลังจากเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ตอนนี้ควรให้ส.ส.ใช้เวลาลงพื้นที่ดูแลประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลายพื้นที่เกิดปัญหาน้ำท่วม ขณะที่รัฐบาลกำลังแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลายเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ประกอบกับการขอเปิดประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญต้องมี ส.ส.เป็นจำนวน 1 ใน10 ของจำนวน ส.ส.ที่มีอยู่ มาร่วมลงชื่อ หรือให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้ยื่นขอ แต่ถ้าดูเงื่อนไขเวลา ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะต้องรวบรวมรายชื่อส.ส. จากนั้นต้องมีการตรวจสอบรายชื่อส.ส.เหล่านั้น และต้องขอให้ประธานสภาพิจารณาซึ่งรวมแล้วคงใช้เวลาหลายวัน

นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า ที่สำคัญ กรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ไม่ควรทำเป็นเพียงประเพณีที่ว่าเมื่อเปิดประชุมสภา สมัยสามัญต้องยื่นให้มีการอภิปรายทุกครั้ง แต่ถ้าฝ่ายค้านอยากให้ข้อเสนอแนะในเรื่องใดแก่รัฐบาลควรอภิปรายเรื่องที่ประเด็นหลักๆ ซึ่งตนเชื่อว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจง แต่ถ้าฝ่ายค้านคิดว่าต้องการใช้การอภิปรายทั่วไปฯ เป็นเกมทางการเมืองเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ตนก็ยังเชื่อว่ารัฐบาลจะชี้แจงอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าคิดว่ากรณีที่ฝ่ายค้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทยอยากยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อหวังผลนำไปสู่การแลนด์สไลด์หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านเดินเกมรุกฝ่ายรัฐบาลอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ในช่วงท้ายของอายุรัฐบาลเป็นเวลาที่รัฐบาลต้องเร่งสร้างผลงานให้ได้มากที่สุด ซึ่งวิปรัฐบาลอยากเรียกร้องว่าหลังจากเปิดประชุมสภา สมัยสามัญขอให้กระทรวงต่างๆแสดงผลการทำงานของตัวเองให้มีความชัดเจน เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติด ส่วนประเด็น พรรคเพื่อไทยประกาศจะกวาด ส.ส.ให้ได้จำนวนเกิน 250 ที่นั่งนั้น ถ้ารวมตัวเลขเป้าหมายกวาด ส.ส.ของแต่ละพรรค คงเกือบ 800 ที่นั่งแล้ว

นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนเคยวิเคราะห์ไว้ว่าการเมืองยังมีความผันผวนตลอดเวลา รวมถึงพรรคการเมืองในเวลานี้มีทั้งพรรคครอบครัว พรรคเฉพาะกิจ และบรรดาพรรคขนาดเล็ก ประชาชนจะใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่นำนโยบายมาปฏิบัติได้จริง และสามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน นอกจากนี้ จากบริบทรัฐธรรมนูญที่ให้การเลือกตั้งใช้บัตรลงคะแนน 2 ใบตนคิดว่าไม่สามารถทำให้ใครคาดเดาได้ว่าตัวเองจะแลนด์สไลด์หรือแลนด์ไถล จึงต้องรอดูในช่วงใกล้วันเลือกตั้งด้วยว่าประชาชนคิดอย่างไรกับสถานการณ์หรือผลงานของแต่ละพรรค.