เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 9 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต และร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม ที่วัดราษฎร์สามัคคี ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติมกรณีเสียชีวิต รวมรายละ 110,000 บาท ส่วนรายที่บาดเจ็บอยู่ระหว่างการรักษาตัว จะดำเนินการช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

นายกฯแสดงความห่วงใยต่อผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และร่วมเป็นกำลังใจให้ในนามของคนไทยทั้งประเทศ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง คนไทยทุกคนมีความห่วงใยซึ่งกันและกัน ความปรารถนาดีที่มีต่อกันจะเป็นพลังกุศลอันยิ่งใหญ่ให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ และขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ทุกฝ่าย ที่ร่วมมือร่วมใจกันให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนและร่วมกันดูแลคนไทยด้วยความสามัคคี
จากนั้น เวลา 18.00 น. นายกฯและคณะ ร่วมสวดพระอภิธรรม ที่วัดราษฎร์สามัคคี โดยนายกฯ จุดธูปเทียนเครื่องกระบะมุกหน้าตู้พระอภิธรรม พระสงฆ์ 4 รูป สวดพระอภิธรรม จบแล้วนายกรัฐมนตรีทอดผ้าบังสุกุลถวายพระสงฆ์ 4 รูป พระสงฆ์พิจารณาผ้าบังสุกุล พระสงฆ์อนุโมทนา นายกรัฐมนตรีกรวดน้ำ กราบลาพระรัตนตรัยที่โต๊ะหมู่บูชา และแสดงความเคารพศพ เป็นอันเสร็จพิธี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนก่อนเดินทางกลับว่า “ขอบุญกุศลที่ทุกคนได้ร่วมกันทำดลบันดาลให้ทุกดวงวิญญาณสู่สุคติภพ” ด้วย

ขณะที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมร่วมสวดพระอภิธรรม ที่วัดศรีอุทัย ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ร่วมสวดพระอภิธรรม ที่วัดเทพมงคลพิชัย ต.ด่านช้าง อ.นากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ สวดพระอภิธรรม ถึงวันที่ 10 ต.ค.นี้ จากนั้นจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.00 น.
