เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา (10 ต.ค.) พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งพบศพนายธนทัต (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถูกเผาตายปริศนา อยู่ภายในโรงเรียนบ้านแสลงโทน หมู่ 1 ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของภรรยาตัวเอง ภายหลังเดินทางกลับมาจากประเทศเยอรมนี พร้อมกับแม่ เพื่อมาเยี่ยมภรรยาและลูกที่เมืองไทย รวมถึงผ่อนผันเกณฑ์ทหาร และจากการตรวจสอบหลักฐานไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย และจากการตรวจสอบวงจรปิดพบผู้ตายเดินมาคนเดียว รวมถึงไม่พบอุปกรณ์ หรือภาชนะใส่น้ำมันที่ใช้เผา หรือสิ่งผิดปกติใดๆ สร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

มารดาผู้ตาย อายุ 55 ปี เบื้องต้นเล่าว่า คืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ลูกชายก็ยังปกติ บอกว่าจะออกไปซื้ออาหารมากิน เพราะหิว หลังจากนั้นก็หายไป กระทั่งมาทราบข่าวเมื่อเวลา 23.00 น. ว่าถูกเผาเสียชีวิตแล้ว รู้สึกตกใจมากเพราะลูกชายไม่มีศัตรู เพิ่งกลับจากเยอรมนี เชื่อว่าลูกชายถูกฆาตกรรมแน่นอน เพราะพบศพในโรงเรียน คาดว่าคนร้ายต้องการไม่ให้ใครเห็น และลูกชายจะไม่ทำร้ายตัวเองอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่าลูกชายเคยเสพยาเสพติดอยู่ระหว่างการบำบัดรักษา ต้องกินยาของหมอวันละ 1 เม็ด

ขณะที่นางก้อย (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 23 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า ปกติสามีมักจะออกไปเดินนอกบ้าน ไปสูบบุหรี่บ้าง เดินเล่นบ้างตามปกติ ส่วนตัวเชื่อว่า 80 เปอรเซ็นต์ สามีถูกทำร้าย ทั้งที่ไม่เคยมีศัตรู จึงอยากจะให้ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว

ต่อมา พ.ต.อ.สาธิต สถิตถาวร ผกก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ แพ่งศรีสาร ผกก.สภ.ประโคนชัย นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนอีกครั้ง พบพยานเป็นหญิงชาวบ้านใกล้โรงเรียน อายุ 56 ปี เบื้องต้นให้การว่า เวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 10 ต.ค. ขณะกำลังนั่งอยู่บริเวณสามแยกกับเพื่อนบ้านหลายคน เห็นผู้ตายเดินมุ่งหน้าไปที่ปั๊มน้ำมันในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นปั๊มแบบหยอดเหรียญคนเดียว ก่อนจะเดินย้อนกลับมาลักษณะเหมือนหนีบขวดน้ำแนบอกมาด้วย แต่ไม่มีใครสนใจเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักกับผู้ตาย รู้กันแค่ว่าเป็นลูกเขยของคนในหมู่บ้าน กระทั่งมาพบเป็นศพถูกเผาดังกล่าว

จากนั้น พ.ต.อ.เจตน์สฤษฎิ์ ประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน บุรีรัมย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบขวดพลาสติกถูกเผาจนหมดและพบฝาเครื่องดื่มชา 1 ฝา กับไฟแช็ก ตกอยู่ในพงหญ้าให้จุดพบศพ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ตรวจหัวจ่ายน้ำมันปั๊มน้ำมันหยอดเหรียญที่พยานให้การ เพื่อเก็บหลักฐานดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับผู้เสียชีวิต เบื้องต้นจึงให้น้ำหนักสาเหตุการเสียชีวิตไปที่ผู้เสียชีวิตก่อเหตุเอง โดยเดินมากดน้ำมันใส่ขวดชาไปเทใส่ตัวแล้วจุดไฟ แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นฆาตกรรมไป อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน และรอผลชันสูตรศพ รวมถึงผลตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเออย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มีรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (12 ต.ค.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง