เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ตำรวจสายตรวจ สภ.พระพรหม ได้รับแจ้งคนเมายาเสพติดคลุ้มคลั่งอาละวาดใช้มีดไล่ฟันทำร้ายเจ้าของร้านขายน้ำหวาน ริมถนนสายเบญจม-นาพรุ หมู่ 5 ต.นาสาร อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบไประงับเหตุ พบน.ส.ทันทิวาพร เกิดทองมี อายุ 25 ปี และนายเอกนัฐ จุลกัลป์ อายุ 33 ปี สองสามีภรรยา เป็นเจ้าของร้าน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าข้าวของภายในร้าน อาทิ กระติกน้ำร้อน ขวดน้ำหวาน และแก้วน้ำ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกฟันด้วยมีดได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน บพ-4754 นครศรีธรรมราช ถูกฟันด้วยมีดพร้าจนกระจกแจก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 บาท โดยผู้เสียหายยืนยันว่าคนร้าย คือนายจักร (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเอกนัฐ เป็นผู้ก่อเหตุ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไปพร้อมอุปกรณ์ควบคุม ก่อนพบคนร้าย หลบซ่อนอยู่ในบ้านพัก จึงเข้าควบคุมตัวเอาไวได้พร้อมมีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นจึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่โรงพัก

ด้านน.ส.ทันทิวาพร กล่าวว่า ในขณะที่ตนยืนขายน้ำหวานอยู่ในร้าน สังเหตุเห็นนายจักร เพื่อนของสามี วิ่งข้ามถนนมาอย่างรวดเร็วในมือถือมีดพร้ายาวกว่า 1 เมตร ตรงดิ่งมาที่ร้าน ตนเห็นท่าไม่ดีจึงเปิดประตูวิ่งหลบหนีออกจากร้าน โดยถูกนายจักร ใช้มีดฟันเฉี่ยวแผ่นหลังรอดตายมาได้อย่างหวุด ก่อนร้องตะโกนขอความช่วยเหลือและไปแอบซ่อนอยู่ในป่าละเมาะ จากนั้นจึงโทรฯแจ้งเหตุให้สามีทราบ แต่ระหว่างนั้นก็สังเกตุเห็นนายจักร ใช้มีดฟันทำลายข้าวของในร้านจนเสียหาย เมื่อสามีขับรถมาถึงที่ร้าน ยังไม่ทันได้ลงจากรถ ก็ถูกนายจักร ใช้มีดฟันกระจกรถจนได้รับความเสียหายอีกด้วย

ขณะที่นายเอกนัฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายจักร ซึ่งเป็นเพื่อนของตน เคยเป็นทหารพรานมาก่อน แต่ติดยาเสพติดอย่างหนัก จึงออกจากทหารพรานมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน ที่ผ่านมาตนให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด ทั้งเรื่องเงินและอาหาร นอกจากนี้เมื่อ 3-4 วันก่อน นายจักร ก็มายืมรถจยย. ของตน หายไปจนถึงขณะนี้ยังไม่นำมาคืน คาดว่าได้นำไปจำนำแลกกับยาเสพติด เพราะนายจักร เสพยาอย่างหนักจนถูกตำรวจจับกุมมาหลายครั้งและเพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมาไม่นาน

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า ขณะเดียวกันทางพ่อกับแม่ของนายจักร ก็เดินทางมาที่โรงพักด้วย โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ยืนยันกับตำรวจเสียงแข็งว่า “ลูกฉันไม่ผิดไม่ได้เสพยา ลูกฉันถูกกลั่นแกลง” พร้อมกอดลูกชายเอาไว้ในอ้อมอกอย่างรักใคร่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อหาหนัก คือ ข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน พกพาอาวุธมีดและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย

“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้กล้องวงจรปิดในร้านจับภาพวีดีโอเอาไว้ได้อย่างชัดเจน ตนได้มอบภาพวีดีโอให้กับตำรวจและสื่อมวลชนไปเป็นหลักฐาน ตนไม่ตาดคิดว่าเพื่อนที่ตนช่วยเหลือทุกอย่างจะเนรคุณกับตนได้ถึงขนาดนี้ ที่สำคัญแม่ของเพื่อน ที่เดินทางไปโรงพักด้วย พยายามปกป้องลูกอย่างเต็มที่ กลับยืนยันว่าลูกตัวเองไม่ผิดถูกลั่นแกล้ง” นายเอกนัฐ กล่าวด้วยนํ้าเสียงสุดเซ็ง