รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทสัปดาห์หน้ายังมีทิศทางอ่อนค่า หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปีที่ 33.49 บาทต่อดอลลาร์ ระหว่างสัปดาห์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงต้นสัปดาห์ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของโควิดในประเทศ ประกอบกับเงินดอลลาร์ มีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการทยอยปรับลดวงเงินการทำ QE ต่อเดือนลงภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ตามแรงขายเงินดอลลาร์ เพื่อทำกำไร ก่อนจะกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ตามความเสี่ยงของโควิดที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่เงินดอลลาร์ มีแรงหนุนอีกครั้งจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐ ที่สะท้อนการฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยปิดตลาดในวันศุกร์ (13 ส.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.35 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับ 33.36 บาทต่อดอลลาร์ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ส.ค.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (16-20 ส.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/64 ของไทยในวันที่ 16 ส.ค.นี้ สถานการณ์โควิดในประเทศ และรายงานการประชุม กนง. (BOT MPC Minutes) เมื่อ 4 ส.ค.
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านเดือน ก.ค. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ส.ค. และบันทึกการประชุมเฟด (FOMC minutes) เมื่อวันที่ 27-28 ก.ค. นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 2/64 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงข้อมูลอัตราดอกเบี้ย LPR และตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน