เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเหตุการณ์สารเคมีรั่วไหลจากโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี โดยเป็นสาร heavy naphtha UN no. 1255 ที่ค้างอยู่ในท่อ เกิดรั่วไหลขณะที่ผู้รับเหมากำลังปฏิบัติงาน เบื้องต้นมีคนงานได้รับสารพิษจำนวน 13 ราย มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุน นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลระยอง ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น แพทย์ให้กลับบ้านเย็นนี้ ส่วนประชาชนที่อยู่โดยรอบ ยังไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบ
นพ.โอภาส กล่าวว่า สารเคมีดังกล่าวอยู่ในกลุ่ม hydrocarbon เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะทำให้เกิดการระคายเคือง หรือก๊าซพิษทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วอาจก่อให้เกิดความร้อนสูง ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นของไอควันในอากาศเมื่อหายใจเข้าไป หากกลืนกินหรือสัมผัสไอ ฝุ่นหรือสารที่ผิวหนังและตา อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเกิดแผลไหม้ที่ผิวหนัง ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี และศูนย์เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยา โรงพยาบาลระยอง เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และลงพื้นที่เก็บตัวอย่างสารพิษในสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ และ อสม. ลงพื้นที่แนะนำประชาชนรอบพื้นที่เกิดเหตุด้วย.