เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 3 อาคารอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกลเตรียมฟ้องร้องแบบ Class Action หรือการฟ้องแบบรวมกลุ่มเรียกค่าเสียหายจากมาตรการการสั่งปิดอันเนื่องมาจากการแก้ปัญหาโควิด-19 เพื่อสร้างมาตรฐานความรับผิดชอบของภาครัฐ โดยพรรคก้าวไกลขอเป็นตัวกลางในการรวบรวมผู้ที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อไปเดินหน้าดำเนินคดีทางแพ่งแบบรวมกลุ่มที่มีโจทก์ มากกว่า 1 คน และมีสมาชิกกลุ่มที่สามารถเข้าร่วมในการฟ้องได้ โดยมีค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการฟ้องแบบแยกเดี่ยว โดยพรรคก้าวไกลจะจัดหาทนายอาสาเข้ามาช่วยเหลือ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ขอย้อนว่าจากการที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาจนถึงตอนนี้กว่า 2 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีแต่การบริหารจัดการที่ผิดพลาดล้มเหลวเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของประชาชน ทั้งโดยจงใจและประมาทเลินเล่อ เป็นสาเหตุให้ประชาชนได้รับความทุกข์ร้อนในหลายมิติ ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมทั้งมีความเดือดร้อนจากการปิดกิจการต่างๆ โดยรัฐ แต่กลับไม่ได้รับการชดเชยความเสียหายหรือเยียวยาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ทั้งผู้ประกอบการ ลูกจ้าง และแรงงานในภาคส่วนต่างๆ

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า นอกจากนี้ประเด็นที่จะยื่นฟ้องคือ ผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการออกมาตรการของรัฐทั้งการออกคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่มีการเลือกปฏิบัติ เช่น การจัดการแรงงานในแคมป์ก่อสร้าง โดยไม่มีการช่วยเหลือทางด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ดังนั้นพรรคก้าวไกลจะรวบรวมผู้ที่เดือดร้อนต่างๆ เดินหน้าดำเนินคดีแพ่งแบบรวมกลุ่ม โดยขณะนี้พร้อมแล้วที่จะยื่นฟ้องคดีแรกในวันที่ 17 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ โดยพรรคก้าวไกลและผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนพร้อมทีมทนายอาสา ไปยื่นฟ้องดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายชดเชยให้กลุ่มธุรกิจร้านนวดและร้านสปา ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยขณะนี้มีการรวมตัวได้กว่า 100 รายแล้ว

“คดีนี้เป็นแค่หมุดหมายแรกเป็นคดีประวัติศาสตร์คดีแรก แต่จะมีการยื่นฟ้องของกลุ่มต่อๆ ไป รวมถึงนักดนตรีอิสระ คนจัดงานอีเวนต์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ และญาติผู้เสียชีวิต ตลอดไปจนถึงกลุ่มแรงงานที่ถูกเลือกปฏิบัติจากมาตรการของรัฐ โดยแบ่งการฟ้องเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบในแต่ละกลุ่มได้มีการคำนวณค่าเสียหายที่แตกต่างกัน เพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาโดยท้ายที่สุดอาจมีการรวมคดีก็ได้ วันนี้ขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมติดตามการดำเนินคดีครั้งประวัติศาสตร์นี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคตว่ารัฐบาลต้องดูแลรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนอย่างดีที่สุดและเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว.