สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ว่า จากกรณีเหตุชุลมุนวุ่นวาย บริเวณหน้าสถานกงสุลใหญ่จีน ประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งมีผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งรวมตัวแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาลปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประท้วงคนหนึ่งซึ่งเป็นชายชาวฮ่องกง และสื่อท้องถิ่นเผยว่าชื่อ “บ็อบ” อายุอยู่ในช่วงประมาณ 30 ปี และมีจุดยืนทางการเมืองตรงข้ามกับจีน อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บหลายแห่งตามร่างกายนั้น


กระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรเชิญนายหยาง เสี่ยวกวง อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอน เข้าพบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยสหราชอาณาจักรเปิดเผยในเวลาต่อมาว่า มีการเตือนอย่างตรงไปตรงมาผ่านเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของรัฐบาลปักกิ่ง ขอให้เคารพ “สิทธิในการชุมนุมและประท้วงทางการเมืองอย่างสันติ”


ด้านนายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “กลุ่มผู้ก่อกวน” พยายามบุกรุกเข้าไปภายในสถานกงสุล “โดยไม่ได้รับอนุญาต” ขณะที่ นายจอห์น ลี หัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง ให้ความเห็นว่า “ให้เป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่น” และแสดงความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร รวมถึงสำนักงานตำรวจเมืองแมนเชสเตอร์ จะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบของอนุสัญญาเวียนนา และกฎหมายของสหราชอาณาจักรเอง


ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับใดของสถานกงสุลประจำเมืองแมนเชอสเตอร์ เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นางอลิเซีย เคียร์นส์ สมาชิกสภาสามัญสังกัดพรรคอนุรักษนิยม กล่าวต่อที่ประชุมสภาสามัญว่า นายเจิ้ง ซีหยวน กงสุลใหญ่จีนประจำเมืองแมนเชสเตอร์ “มีความเกี่ยวข้องโดยตรง” กับการตะลุมบอนผู้ประท้วง


อนึ่ง สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุล ถือเป็นพื้นที่ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาเวียนนา และถือเป็น “ดินแดนภายใต้อธิปไตยของรัฐผู้ส่ง” อีกทั้งบุคลากรที่ปฏิบัติงาน “มีสิทธิคุ้มกันทางการทูต”.

เครดิตภาพ : REUTERS