เมื่อวันที่ 19 ต.ค. นายอดิเรก อุ่นโอสถ นายอำเภอลาดบัวหลวง จ. พระนครศรีอยุธยา สั่งการให้ นายภูวริน บุญภูพันธ์ตันติ ปลัดอาวุโสอำเภอลาดบัวหลวง พร้อมด้วย นายอานนท์ ไชยชาติ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง กองร้อยอาสารักษาดินแดน อำเภอลาดบัวหลวงที่ 11 ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมอำเภอลาดบัวหลวง

กรณี เมื่อวันที่ 16 ต.ค. เวลา 21.00 น. นายบุญยืน อายุ 37 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งคล้ายคนเมายาใช้มีดไล่ฟันและใช้ปืนยิงตะปูยิงใส่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ทำให้ประชาชนหวาดกลัวเกรงจะได้รับอันตราย พอตำรวจ สภ.ลาดบัวหลวง ไประงับเหตุ ปรากฎว่า นายบุญยืน ไม่กลัว ทั้งยังเอามีดวิ่งไล่ฟันตำรวจจนแตกกระเจิง แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตำรวจโรงพักจึงถอนกำลังก่อนจะแจ้งขอกำลังเสริมมาในครั้งนี้

นอกจากนี้ชายคนดังกล่าวยังมีหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเลขที่ 169/2565 ลงวันที่ 28 พ.ค.65 ข้อหาบุกรุกเคหสถาน ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธมีดอีกต่างหากด้วย

โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากคลอง 1 หมู่3 ต.สามเมือง อ.ลาดบัวหลวง โดยฝ่ายปกครองลาดบัวหลวงบูรณาการร่วมกับ พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก. พ.ต.ท.วสัน คงนิล รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง สว.สส. พร้อมสนธิกำลังหน่วยปฎิบัติการพิเศษ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบ

กระทั่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดบุกจู่โจมเข้าไปในบ้านพักของ นายบุญยืน ก่อนจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้นายบุญยืนออกมามอบตัว โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที นายบุญยืน ก็ออกมาจากห้องนอนยอมมอบตัว จากการตรวจค้นภายในห้องนอนพบมีดปลายแหลม ปืนยิงตะปู 1 ตัว เครื่องปั๊มลม 1 เครื่อง เคียว 1 ด้าม หนังสติ๊ก 1 อัน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบประวัติพบเคยถูกจับคดีบุกรุกเคหสถานเมื่อปี 62 ถูกจำคุก 1ปี 1 เดือน เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 63 ซึ่งจากการสอบสวน นายบุญยืน ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง จึงนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดก่อนส่งดำเนินคดีต่อไป.