เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. ร่วมกันแถลงผลยุทธการ “ฉีกหน้ากากโมเดลลิ่ง” หลังนำกำลังเข้าจับกุมขบวนการล่อลวงพริตตี้เด็กสาวค้าบริการทางเพศ สามารถจับกุม น.ส.ณัฐณรีย์ ศรุตวรทรัพย์ หรือ โมส้ม อายุ 32 ปี น.ส.สุชัญญา วันทอง หรือ โมดาว อายุ 21 ปี สองโมเดลลิ่งผู้จัดหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2213-2214/2565 ตามลำดับ ลงวันที่ 17 ต.ค. 2565 ข้อหา สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี โดยจับกุมตัว น.ส.ณัฐณรีย์ ได้ที่บ้านพักย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.สุชัญญา จับกุมตัวได้ที่บ้านพักย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นอกจากนี้ยังตามจับกุมผู้ใช้บริการอีก 2 ราย

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตรวจพบการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และกลุ่มลับแอพพลิเคชั่นไลน์ ว่า สามารถจัดหาพริตตี้ นางแบบ นักเรียน นักศึกษา อายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าบริการทางเพศได้ จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแส ก่อนวางแผนติดต่อล่อซื้อบริการโดยนัดหมายให้นำเด็กสาวมาส่ง ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการช่วยเหลือ พร้อมกับสอบปากคำคัดแยกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จนทราบว่ามีอายุเพียงแค่ 17 ปี ถูก น.ส.ณัฐณรีย์ และ น.ส.สุชัญญา หลอกชักชวนมาขายบริการ เคยทำมาแล้ว 2 ครั้ง เพราะเห็นว่ารายได้ดี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และนำมาสู่การตามจับกุมโมเดลลิ่งทั้ง 2 ราย และลูกค้าที่มาใช้บริการทั้ง 2 คน ได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนโมเดลลิ่งทั้งสองให้การรับสารภาพ โดย น.ส.ณัฐณรีย์ อ้างว่า ก่อนหน้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บริบาลคนชรา แต่มีปัญหาชีวิต เพราะกู้เงินสินเชื่อส่วนบุคคล มาลงทุนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างกับแฟน เป็นหนี้สินจำนวนมาก จึงลาออกจากงานเนื่องจากเกรงว่าจะถูกฟ้อง ก่อนผันตัวมาเป็นโมเดลลิ่งหาเด็กมารับงานเอ็น งานวี เนื่องจากมีรายได้ดี โดยทำมานาน 3 ปี ส่วนเด็กสาวผู้เสียหายในคดีนี้ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน ได้ข้อมูลการติดต่อมาจากบอร์ดไลน์รับงานเอ็นวี ของกลุ่ม โมเดลลิ่งอีกทีหนึ่ง

ส่วน น.ส.สุชัญญา ให้การอ้างว่า ก่อนหน้าเคยทำงานเป็นพริตตี้เอ็นเตอร์เทนมาก่อน แล้วพบว่ามีรายได้ดี จึงผันตัวเองมาเป็นโมเดลลิ่ง ส่วนข้อมูลติดต่องานของเด็กสาวผู้เสียหาย มาจากไลน์กลุ่มโมเดลลิ่งเช่นกัน ซึ่งแต่ละครั้งที่จัดหางานค้าบริการทางเพศให้กับพริตตี้เด็กสาวเหล่านี้ ตนจะได้เงินส่วนต่างประมาณ 3,000 บาท ต่อครั้ง เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป