เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 15 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. แถลงสรุปกิจกรรมคาร์ม็อบและคาร์ปาร์ค ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 กลุ่มสำคัญ ดังนี้
1.กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด)
2.กลุ่มไทยไม่ทน โดย นายยศวริศ ชูกล่อม (เจ๋ง ดอกจิก)
3.กลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
4.กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดย นายธนเดช ศรีสงคราม (ม่อน)
5.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล (รุ้ง)
6.กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า

โดยเริ่มทำกิจกรรมเวลา 13.00-18.00 น. หลังจากประกาศยุติกิจกรรม ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมารวมตัวกันที่บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ในเวลาประมาณ 18.05 น. และพยายามจะฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้มีการขว้างปาสิ่งของ ประทัดยักษ์ พลุไฟ ลูกหิน ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าควบคุมสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 18.10 น. เป็นต้นไป และล่าสุดสามารถรักษาพื้นที่ไว้ได้ เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกสามย่าน ได้พบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มีพิรุธ จึงได้ทำการเรียกหยุดแต่กลุ่มผู้ต้องสงสัยขับหนีไป จึงได้ติดตามมาจนถึงแยกปทุมวัน และสามารถเรียกตรวจค้น ผลการตรวจสอบพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 2 นัด และอาวุธมีดยาวประมาณ 30 ซม. จำนวน 1 เล่ม จึงได้ทำการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับการชุมนุมทั้ง 6 กลุ่ม พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้เน้นย้ำพนักงานสอบสวนทุกพื้นที่มีการกระทำผิด ให้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม และจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทุกราย ขณะที่การชุมนุมแต่ละครั้งเริ่มมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ในส่วนนี้ ผบ.ตร. และ ผบช.น. ได้กำหนดแนวทางในการป้องกันเหตุร้าย ป้องกันทรัพย์สิน โดยให้ตำรวจนำอุปกรณ์ในการป้องกันตนเอง เสื้อเกราะ โล่ ชุดเคลื่อนที่เร็ว และเข้มงวดในจุดตรวจโควิด

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงภาพรวมจัดการชุมนุมคาร์ปาร์คที่มีการจัดคู่ขนานกัน ประมาณ 30 จังหวัด ทั่วประเทศ รวมถึงกทม. ว่า ถือว่ามีความผิดโดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อเหตุความวุ่นวาย ซึ่งการดำเนินคดีจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายกฏหมายในการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการออกมาอยากให้แยกเป็น 2 ส่วน ผู้ที่มาชุมนุมอย่างสันติ ถือว่ามีความผิด เนื่องจากกฎหมายระบุว่า เป็นความผิด ส่วนกลุ่มผู้ที่ก่อความวุ่นวายในสังคม ตำรวจจะต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

พ.ต.อ.กฤษณะ ยังได้ระบุถึง เฟคนิวส์ที่มีการเผยแพร่ ปรากฏภาพผู้หญิง ยืนชี้หน้าด่า คฟ. พร้อมระบุข้อความว่า เป็นลูกสาวของผบ.ตร. ยืนยันว่า ข้อความดังกล่าวเป็นเฟคนิวส์ ไม่ใช่ลูกสาวของ ผบ.ตร.

ส่วนอาการล่าสุดของไฮโซลูกนัท พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เจ้าตัวยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ซึ่งแพทย์ยังไม่ได้ลงความเห็นใดๆ แต่จากนี้คงจะมีแถลงการที่ชัดเจนต่อไป