เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคของไทย กล่าวถึงรายชื่อผู้นำเขตเศรษฐกิจและผู้แทนที่จะร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. ว่า เขตเศรษฐกิจที่ยืนยันแล้วว่า จะมีผู้แทนของผู้นำ มาเข้าร่วมการประชุม มี 5 เขตเศรษฐกิจดังนี้

1.สหรัฐอเมริกา ซึ่งนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี จะมาร่วมประชุมแทนนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ติดภารกิจ 2.เกาหลีใต้ เดิม นายยุน ซอกย็อล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ จะเข้าร่วมด้วย แต่ล่าสุดมีภารกิจเร่งด่วนภายในประเทศ จึงมอบหมายนาย ฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ มาประชุมแทน
3.เม็กซิโก ประธานาธิบดีมอบหมายให้หนึ่งในรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาประชุมแทน
4.มาเลเซีย เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 19 พ.ย. นี้ นายอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงมอบหมายผู้แทนพิเศษมาร่วมแทน
5.จีนไทเป (หรือไต้หวัน) ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน มอบหมายให้ ดร.จาง จงโหมว ผู้ก่อตั้งบริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์ เป็นผู้แทนพิเศษมาร่วมการประชุม

นายเชิดชาย กล่าวอีกว่า กรณีของรัสเซียนั้น นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังไม่มีการตอบรับใดๆ อย่างเป็นทางการจนถึงเวลานี้

ขณะที่อีก 15 เขตเศรษฐกิจซึ่งไม่รวมประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพ เราเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ผู้นำจะมาร่วมการประชุมเอเปค ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยังไม่สามารถระบุชื่อเขตเศรษฐกิจเหล่านี้ เพราะขั้นตอนต่างๆ เป็นการภายในของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน อาทิ ต้องมีการขอความเห็นชอบจากทางรัฐสภาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้

สำหรับแขกพิเศษ 3 เขตเศรษฐกิจ ที่ตอบรับเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ 1.สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะประธานอาเซียน 2.นายเอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส 3.เจ้าชายมูฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย

นายเชิดชาย ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะมาเข้าร่วมการประชุมเอเปคในไทยด้วย ว่า หากนายสีเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ในแง่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีจะถือเป็นการเยือนไทยครั้งแรกของนายสี หลังจากขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนตั้งแต่ปี 2555 จึงถือเป็นการเยือนที่มีความหมายและมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ 2 ประเทศ ในส่วนของการประชุมผู้นำเอเปคนั้นประเทศจีนที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ถือเป็นผู้เล่นหลักในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จึงพูดได้ว่า การร่วมประชุมเอเปคของประธานาธิบดีจีนมีผลอย่างมหาศาล และเราตั้งตารอที่จะฟังความเห็นรวมถึงสิ่งต่างๆ ที่ประธานาธิบดีจีนจะกล่าวในที่ประชุมเอเปค รวมถึงในเวทีผู้นำภาคเอกชน APEC CEO Summit 2022 ที่ประธานาธิบดีจีนได้รับเชิญให้กล่าวถ้อยแถลงในวันที่ 17 พ.ย. นี้ด้วย ดังนั้นในภาพรวม การเข้าร่วมของประธานาธิบดีสี จึงมีผลต่อการประชุมอย่างยิ่ง

“หากมีการเดินทางเยือนไทยครั้งนี้จะถือเป็นหนึ่งในการเดินทางออกนอกประเทศของประธานาธิบดีสี หลังโควิด-19 และยังมีความสำคัญที่เป็นการประชุมที่ผู้นำเอเปคเดินทางมาร่วมประชุมแบบพบกันครั้งแรกในรอบ 4 ปี หรือหลังจากการประชุมเอเปคที่ปาปัวนิวกินีในปี 2561” นายเชิดชาย กล่าว

นายเชิดชาย กล่าวอีกว่า เราสนใจที่จะฟังสิ่งที่ผู้นำของเขตเศรษฐกิจแสดงความเห็นว่า เอเปคในฐานะเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศนั้น จะดำรงบทบาทอย่างไรท่ามกลางภูมิสถาปัตย์ที่เปลี่ยนแปลงไป และยังมีความท้าทายมากมายที่เกิดขึ้นรายรอบ ไม่ว่าความมั่นคงทางไซเบอร์ ภาวะดิสรัปชั่นที่เกิดขึ้นทั่วโลก วิกฤติด้านพลังงานและอาหาร รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เศรษฐกิจใหญ่อย่างจีน จะมีบทบาทในการหารือที่จะเกิดขึ้นในช่วงการประชุมผู้นำเอเปค

ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้นำองค์การระหว่างประเทศที่จะเข้าร่วมในการประชุมเอเปคด้วย นายเชิดชาย กล่าวว่า นางคริสตัลลีนา จอร์จีวา กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเดินทางมาร่วมหารือกับผู้นำเอเปค ในช่วงเช้าวันที่ 19 พ.ย. ซึ่งจะมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนที่ยั่งยืน ขณะที่ผู้นำอีก 3 องค์กรสำคัญ ประกอบด้วย นายเทดรอส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก, นายมาธิอัส คอร์มันน์ เลขาธิการใหญ่องค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) และนางอึงโกซี โอโกนโจ-อิเวลา ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) จะเข้าร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลกับที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้วย.

ขอบคุณรูปจาก www.apec2022.go.th.