เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่สวนเกษตรวิสาหกิจชุมชน ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดกิจกรรมโครงการเกษตรทิพย์ฟาร์ม เพื่อต่อยอดจาก Smart Community สู่การเป็นต้นแบบ Smart Farm ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การบริหารจัดการฟาร์ม พร้อมเดินหน้าเป็นแหล่งสร้างอาชีพสู่ชุมชน
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เปิดเผยว่า บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้จับมือกับ วิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง เพื่อต่อยอดความก้าวหน้าของศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า (SKCE) จึดได้เปิดตัว “เกษตรทิพย์ฟาร์ม” ฟาร์มนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่สู่ความยั่งยืนกับ 6 โซนการเรียนรู้ บนพื้นที่ 11 ไร่ โดยเป็นการต่อยอดจาก Smart Community สู่การเป็นต้นแบบ Smart Farm ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งถือเป็นการเตรียมเดินหน้าเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการฟาร์มในการถ่ายทอดองค์ความรู้การทำเกษตรอินทรีย์ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร และนวัตกรรมการเกษตร ในรูปแบบ Smart Farming สู่เกษตรกรทั่วประเทศ พร้อมเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้แก่ลูกหลานและ คนในชุมชนอย่างยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในภาคการเกษตรไทย

ทั้งนี้ เส้นทางของการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า จากระยะเริ่มต้นของการพัฒนา กิจกรรมต่อเนื่องกับกลุ่มฯ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการฟาร์มและการทำเกษตรต้นแบบ มาสู่ระยะการเสริมความแข็งแกร่ง โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ เพื่อให้เกิดการทำธุรกิจชุมชนต้นแบบ และสุดท้ายเป็นระยะสร้างความยั่งยืนในการพัฒนา SKCE FARM ในระดับภูมิภาค
นายบุญมี สุระโคตร ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง (เกษตรทิพย์) กล่าวว่า เกษตรทิพย์ฟาร์ม คือ ฟาร์มนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่สู่ความยั่งยืนที่เกิดจากความตั้งใจที่จะผลักดันการทำเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่ทำเกษตรสมัยใหม่ที่ต่อยอดจาก Smart Community สู่การเป็นต้นแบบ Smart Farm เพื่อเป็นศูนย์กลางการถ่ายทอดองค์ความรู้การทำเกษตรอินทรีย์ และการบริหารจัดการฟาร์มด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตร และนวัตกรรมการเกษตรในรูปแบบ Smart Farming ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้แนวคิด Modern Organic Farm ที่ออกแบบและพัฒนาฟาร์มโดย บริษัท เกษตรอินโน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง เอสซีจี สยามคูโบต้า และ คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้เพื่อเป็นแหล่งสร้างอาชีพให้แก่คนในชุมชนเกิดความยั่งยืน รวมถึงลูกหลานคนรุ่นใหม่ของชุมชนกลับมาสานต่ออาชีพเกษตรกรรองรับแรงงานคืนถิ่น ในขณะเดียวกันก็ยังผสานกับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชนเอาไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน
ทั้งนี้พื้นที่ภายในฟาร์มมีทั้งหมด 11 ไร่ แบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่ 1.โซน Green House หรือโรงเรือนอัจฉริยะ สามารถปลูกพืชและควบคุมผลผลิตให้ได้คุณภาพ อีกทั้งยังลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติตลอดทั้งปี ภายในโซนมีระบบเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ ความชื้น และความเข้มแสง รวมทั้งมีระบบการให้น้ำแบบเรียลไทม์ผ่านแอพพลิเคชั่น พืชที่ปลูก ได้แก่ เมล่อน 2.โซนไม้ผลมูลค่าสูง เป็นการสร้างทางเลือกสำหรับการเพาะปลูกพืชและเป็นแหล่งสร้างรายได้ระยะยาว สำหรับพืชที่ปลูกภายในฟาร์ม ได้แก่ ทุเรียน อะโวคาโด โกโก้ นอกจากนี้ยังปลูกกล้วยน้ำว้า เพื่อเป็นแนวกันลม พร้อมทั้งนำนวัตกรรมระบบให้น้ำอัจฉริยะเข้ามาใช้ในพื้นที่ด้วย

3.โซนพืชสร้างรายได้เร็ว แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ พืชผักไม้เลื้อยและพืชแซมอื่นๆ อาทิ ถั่วฝักยาว บวบ ฟักเขียว และผักใบและผักสวนครัว ได้แก่ กลุ่มผักสลัด (กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด) รวมถึงหอมแดงและกระเทียมซึ่งเป็นพืชที่ได้รับมาตรฐาน GI ทั้งนี้ยังได้นำเครื่องยกร่อง และรถปลูกผักมาใช้ทดแทนแรงงาน รวมทั้งมีการนำนวัตกรรมการให้น้ำอัจฉริยะมาควบคุมระบบให้น้ำภายในแปลงด้วย 4.โซนโซลาร์เซลล์ พื้นฐานการทำเกษตรของกลุ่มเป็นการทำเกษตรอินทรีย์ โดยทางกลุ่มมุ่งที่จะเป็นการเกษตรแบบ Green Energy จึงได้ติดตั้งโซลาร์เซลล์แบบกระแสตรง ช่วยลดต้นทุนจากค่าไฟฟ้า ทั้งจากระบบการให้น้ำ และไฟส่องสว่าง
5.โซนแปลงข้าวตัวอย่าง มีการนำเครื่องจักรกลการเกษตรสยามคูโบต้ามาใช้ควบคุมคุณภาพและปริมาณตลอดกระบวนการเพาะปลูก ตั้งแต่การใช้แทรกเตอร์ในการเตรียมดิน การใช้รถดำนาในขั้นตอนปักดำ การใช้โดรนเพื่อการเกษตรในขั้นตอนของการดูแลรักษา และใช้รถเกี่ยวนวดข้าวสำหรับการเก็บเกี่ยวผลผลิต นอกจากนี้ยังสร้างรายได้เพิ่มด้วยการอัดฟางสำหรับจำหน่าย และ 6.โซนพืชสมุนไพร ในปัจจุบันพืชสมุนไพรจัดเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่ตลาดมีความต้องการ ในปริมาณสูง ทางกลุ่มเล็งเห็นโอกาสในการสร้างอาชีพทางเลือก จึงได้จัดทำแปลงสมุนไพรในฟาร์ม ต่อยอดการแปรรูปเป็นอาหารและยา สมุนไพรที่ปลูก ได้แก่ ข่า ตะไคร้ กระชายดำ กระชายขาว มะนาว มะกรูด และฟ้าทะลายโจร.