จากกรณีผู้ถูกกล่าวหาคดีแชร์ Forex-3D จากลอต 16 (ลอตเดียวกับ ดีเจแมน-พัฒนพล กุญชร และ ใบเตย-สุธีวัน กุญชร) ชื่อ นายแดริล ไค หยางฮุ่ย อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ จะต้องเข้ารับทราบ 3 ข้อกล่าวหาในคดีแชร์ Forex-3D ประกอบด้วย ฐานความผิด ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หลังจากมอบหมายทนายความส่งหนังสือขอเลื่อนทั้งหมด 2 รอบ ได้แก่ รอบวันที่ 5 ต.ค. เป็นวันที่ 25 ต.ค. และรอบวันที่ 25 ต.ค. เป็นวันที่ 3 พ.ย. แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้เข้าพบดีเอสไอ และได้หนีออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. ตามที่มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ยื่นหนังสือทางการสอบถามไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อขอรายละเอียดที่เป็นลายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศของ นายแดริล และ นายอดัม หรือ เอ็ดดี้ โพการี ชาวฮังการี เพื่อพิจารณาออกหมายจับ ล่าสุดศาลได้อนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ทางดีเอสไอจะประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อขอออกหมายจับสากลแก่บุคคลทั้งสอง ติดตามนำตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย โดยเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนในรายละเอียดเกี่ยวกับประเทศปลายทางที่ทั้งคู่หลบหนีไป หรือข้อมูลในชั้นสืบสวนต้องขอสงวนไว้ แต่ยืนยันว่าดีเอสไอได้มีการเร่งรัดพนักงานสอบสวนในการดำเนินการตั้งแต่ทราบข้อมูลในช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่าชายชาวสิงคโปร์หนีออกนอกราชอาณาจักร ไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามที่นัดหมาย

เมื่อถามว่า นายแดริล ไค หยางฮุ่ย (ชาวสิงคโปร์) มีอีกคดีในฐานะผู้เสียหายอยู่ หากทราบว่ามีหมายจับจากศาลในคดีแชร์ Forex-3D ออกมาแล้ว จะยิ่งทำให้นายแดริลตัดสินใจไม่กลับเข้าไทยเลยหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน อธิบายว่า จริง ๆ แล้วดีเอสไอไม่ได้ปิดประตูตายสำหรับเขา เราอยากสื่อสารให้เข้าใจว่า หากตำรวจสากลมีการออกหมายแดงแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาจะตัดสินใจหลบหนีตลอดชีวิตหรือจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งหากกลับเข้ามาในไทยแน่นอนว่าเราจะมีการควบคุมตัวไปขอศาลฝากขังเนื่องจากเขามีหมายจับ แต่บุคคลนั้นจะได้ใช้โอกาสในชั้นสอบสวนเช่นเดิม มีสิทธิในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาแล้วนำเอกสารพยานหลักฐานต่างๆเพื่อแก้ข้อกล่าวหาได้เหมือนกับบุคคล 14 ราย ที่ก็ใช้ขั้นตอนนี้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม การกลับมาสู้คดีก็คงดีกว่าการต้องคอยหลบหนีไปเรื่อย ๆ ส่วนประเด็นมาตรการหลังจากนี้สำหรับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 14 ราย ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว จะมีการกำหนดห้ามบุคคลใดๆเดินทางออกนอกราชอาณาจักรระหว่างรอสรุปสำนวนหรือไม่นั้น พ.ต.ต.วรณัน เผยว่า ในประเด็นดังกล่าวอยู่ในกระบวนการพิจารณาของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ.