เมื่อวันที่ 8 พ.ย. น.สพ.เกษตร สุเตชะ อาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณีมีหญิงสาวรายหนึ่ง ทำคอนเทนต์ท้าลองเมนูสุดสยองรับประทานค้างคาว ว่า เรื่องนี้ตนออกมาเตือนหลายครั้ง ตั้งแต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดเกี่ยวกับกรณีนี้เพจ “หมอแล็บแพนด้า” ออกมาเตือนอีกว่า เป็นเรื่องไม่สมควรทำ เพราะค้างคาวเป็นต้นตอของโคโรนาไวรัส ก่อโรคโควิด-19

เรื่องนี้ ตนในฐานะสัตวแพทย์ ประจำศูนย์วิจัยและบริการวิชาการทางสัตวแพทย์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน มีความเป็นห่วงว่า อาจจะก่อให้เกิดโรคระบาดที่มีค้างคาวเป็นต้นตอของโรคอีก เพราะค้างคาวเป็นแหล่งรังโรคและเป็นสัตว์ที่สะสมเชื้อโรคเยอะมาก มีรายงานการเจอไวรัสมากกว่า 60 ชนิดในค้างคาว ซึ่งบางชนิดก็ก่อโรคในคนได้ และยังแพร่ระบาดไม่หายถึงทุกวันนี้ เช่น ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า ไวรัสอีโบลา ไวรัสซาร์ส ไวรัสเมอร์ส ไวรัสนิปาห์ ที่ทำให้เกิดโรคสมองอักเสบ และอย่าลืมว่าต้นตอของโรคโควิด-19 ที่อู่ฮั่น ประเทศจีน ก็มาจากค้างคาวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การจับค้างคาวมากิน ยังถือว่าผิด พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อีกด้วย

“เรื่องนี้พอผิดกฎหมายแล้ว ก็จะมาบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้ เพราะก่อนนำเสนอมีการคิดเอาไว้แล้วว่า เนื้อหาที่จะเสนอนั้นคืออะไร ออกไปแล้วปังแน่นอน ดังนั้นจะมาอ้างไม่ได้ ซึ่งผมเป็นห่วงด้วยบทบาทหน้าที่ และการที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก อาจจะมีผู้หลงไปทำตามได้ จึงอยากให้ลบคลิปเหล่านั้นออก และในเรื่องของการนำเสนอเนื้อหาต่างๆ นั้น เข้าใจดีว่า คนเรามีสิทธิเสรีภาพ และนำเสนอเนื้อหาต้องการกระแส ต้องการคอนเทนต์ แต่ต้องมีความรับผิดชอบ และมีเรื่องราวอีกมากมายให้นำมาเสนอ และไม่ทำให้สังคมและประเทศต้องบอบช้ำ 3 ปีที่ผ่านมา ที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เราต่างสูญเสียอะไรไปเยอะแยะ” น.สพ.เกษตร กล่าว

ทั้งนี้โรคโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก มีคนล้มตายจำนวนมาก เศรษฐกิจพังไปทั่วโลก นี่แสดงว่า หน่วยงานทั้งท้องถิ่นและระดับประเทศ ในกำกับของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไม่ได้มีการให้ความรู้ประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องและวงกว้าง ถึงผลเสียของการกินค้างคาวทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และผิดกฎหมาย.

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”