เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 และบรรยายหัวข้อวิชา “บทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมืองในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ”ตอนหนึ่งว่าวันนี้ประเทศของเรามีความได้เปรียบและมีการพัฒนาในหลายด้าน แม้ว่าที่ผ่านมาจะประสบปัญหาอยู่บ้างทั้งภัยธรรมชาติและโรคระบาด ขาดโอกาสสร้างความเข้มแข็งแต่ต้องอย่าลืมว่าทุกวันนี้ในวิกฤติต่างๆก็มีโอกาส มีมิตรประเทศในการร่วมกันแก้ไขปัญหา​ ซึ่งความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วนถือว่ามีสิ่งสำคัญทั้งภาครัฐ​ เอกชน​ และการเมืองในการดูแลเยียวยาแก้ไขปัญหาของประชาชนและขับเคลื่อนแผนงานโครงการต่างๆเพื่อประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า​ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปค ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากต่างประเทศ​ และการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติไว้ เพราะที่ผ่านมาบางรัฐบาลมีอายุการทำงานสั้น​ จึงไม่เห็นผลงานปรากฏออกมา​ โดยตอนนี้เราได้เดินตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ​ สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงได้​ จึงต้องสร้างความเข้าใจกับทุกคนที่หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการวางแผนไว้​ เพราะว่ามองว่าตัวเองจะอยู่นานหรือไม่​ แต่รัฐบาลนี้ยืนยันว่าโครงการสำคัญๆที่กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติจะต้องดำเนินการให้สำเร็จ ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมีความต่อเนื่อง​ ไม่ว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาก็จะต้องดำเนินการต่อตามแผนยุทธศาสตร์ด้วยการร่วมมือกันและเข้าใจกัน​ เราจะมุ่งหวังให้เราเป็นประเทศเดียวที่จะได้รับประโยชน์ไม่ได้​ วันนี้เราจะต้องสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดขึ้นให้ได้

ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส​ ในการขับเคลื่อนประเทศชาติไปข้างหน้าเรา​ ต้องย้อนกลับย้อนไปดูว่าเราสามารถหาเงินได้จากที่ใด​ โดยการบริหารงานตลอด 8 ปี เราจะพยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดอนาคตประเทศไทยจึงขอให้มีการพูดคุยหารือ เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่ารัฐบาลดูแลมากน้อยอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า​ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลพยายามทำอยู่คือการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ได้​ เพราะวันนี้เราเป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย มีการค้าเสรี แต่ทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมากขึ้น จึงต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้และรัฐบาลกำลังพยายามทำอยู่คือการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า​ การสร้างรายได้ให้กับประชาชนและการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย​ รวมทั้งการเข้าถึงการบริการภาครัฐ​ เพราะนั่นคือความเท่าเทียม​ พร้อมพัฒนา​ตนเอง

นายกฯ ไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในโลกแต่เป็นคนช่างคิด คิดไปเรื่อยอะไรทำได้ก็ทำ อะไรทำไม่ได้ก็ไม่ทำ แต่ถ้าหยุดคิดก็ทำอะไรไม่ได้หรือคิดเฉพาะความขัดแย้ง คิดแต่จะไปสู้เขายังไงมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมากับประเทศชาติ พร้อมถามผู้มาร่วมงานว่า ทุกวันนี้ฟังผมรู้เรื่องกันหรือไม่ พอเข้าใจกันใช่หรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บทบาทของภาครัฐวันนี้ไม่ใช่แค่รักษาอธิปไตยและความสงบเรียบร้อยแล้ว วันนี้ไม่ใช่ถือดาบถือปืนเดินหน้าลุยกันเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่วันนี้มีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ มากมายสิ่งที่ต้องระมัดระวังที่สุดทำอย่างไรเราจะสงบเรียบร้อยไม่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศทั้งจากพวกเรากันเองและภายนอก ทำอย่างไรให้ดินแดนของเราเป็นดินแดนสงบสุข เป็นดินแดนแห่งสันติภาพและดินแดนแห่งรอยยิ้ม เราอยากให้ดินแดนแห่งอาเซียนเป็นดินแดนแห่งสันติภาพ พูดคุยกับใครก็ได้แก้ปัญหาอะไรก็ได้เป็นสิ่งที่เราพยายามทำและพยายามสร้างคนไทยต้องดูตรงนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดสรรที่ดินให้กับประชาชน ตนและรัฐบาลได้คิดออกมา ถึงได้มีคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติขึ้นมา ไปดูการเข้าถึงที่ดินและการทับซ้อนของที่ดินของภาครัฐ ที่มีมากพอสมควร วันนี้คิดไปคิดมาที่ดินของประเทศไทยอาจจะลดลงก็ได้ เพราะซ้ำซ้อนกัน แต่ก็เพียงพอ เพราะมีคนอยากไปอยู่ต่างประเทศเยอะพอสมควร ที่ดินก็น่าจะพอ พูดไปเดี๋ยวก็เป็นข่าวอีก ตนชอบพูดหาเรื่อง แต่ตนไม่อยากไปตอบโต้ เพราะประเทศชาติเดินไปข้างหน้าด้วยดี โดยเฉพาะการตอบรับการเข้าร่วมประชุมเอเปคก็เป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นผู้นำหลัก ที่เดินทางมามีเพียงบางประเทศที่ส่งผู้แทน เพราะสถานสถานการณ์ในประเทศมีปัญหา ซึ่งเชื่อว่าการประชุมเอเปคจะเป็นไปได้ด้วยดี เราต้องช่วยกันเป็นเจ้าภาพให้ดีที่สุดฝากประชาชนช่วยกัน วันนี้เป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยยืนอยู่ในโลกปัจจุบันได้อย่างไร

เราต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เมื่อวานก็พูดกับท่านทูตไป เพราะเรามีบริบทที่ต่างกันพอสมควร ประเทศไทยและหลายประเทศในตะวันตก และตะวันออก มีสถาบันพระมหากษัตริย์ เรามีกฎหมายของเราที่จำเป็นต้องคุ้มครอง ทุกประเทศเรามีกฎหมายที่ใกล้เคียงกัน

“การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบ ผมยอมรับความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต แต่พูดถ้าไม่มีข้อมูล ผมก็จำเป็นต้องชี้แจง บางทีมันก็ไม่ใช่เลยแต่ผมไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น ผมอยากจะฟังเสียงพี่น้องประชาชนในสิ่งที่เขาต้องการ ในสิ่งที่เป็นไปได้ และทำให้เขาให้ได้เพื่อจะแก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาล เอกชน ภาคการเมือง มีบทบาทสำคัญที่จะสร้างความมั่นคงความก้าวหน้าให้กับประเทศชาติ” นายกฯ กล่าว