เมื่อวันที่ 9 พ.ย. น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา พ.ศ. ….ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. 2560 ว่าแม้จะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายเล็ก ทำการผลิตสุราดำเนินการได้ง่ายขึ้น แต่หากพิจารณาโดยละเอียดพบว่าร่างดังกล่าวกีดกันการเข้าสู่อุตสาหกรรมสุราของประชาชนอย่างชัดเจน กฎกระทรวงที่ออกมาไม่มีความชัดเจน รวมทั้งเนื้อหาที่มีการประกาศออกมา ระเบียบดังกล่าวเป็นการปิดโอกาสอุตสาหกรรมสุราพื้นบ้านโดยตรง เพราะด้วยเงื่อนไขที่ตั้งไว้สร้างปัญหาให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เร่งออกกฎกระทรวงเพียงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาล เกรงว่าหาก พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าผ่าน ความเห็นชอบจากสภาจะกระทบกับนายทุนสุรารายใหญ่ที่สนับสนุนรัฐบาล
กฎกระทรวงที่ออกมาชัดเจนว่าต้องการปกป้องผลประโยชน์ของนายทุนสุรามากกว่า ไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนสามารถผลิตสินค้าหรือผลิตเหล้าประจำถิ่นไปจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวได้ ขณะเดียวกันในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี ญี่ปุ่น จีน รัฐบาลจะส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจท้องถิ่นชุมชนในแต่ละพื้นที่ผลิตสุราหรือเบียร์ประจำถิ่นของตนเอง เป็นซอฟต์พาวเวอร์ขายนักท่องเที่ยวสร้างรายได้มหาศาล ต่างจากรัฐบาลไทยที่กลัวชาวบ้านมีรายได้ปิดช่องทางทำมาหากินของประชาชน
“พล.อ.ประยุทธ์ออกกฎกระทรวงเพื่อปกป้องผลประโยชน์นายทุนโดยตรง พล.อ.ประยุทธ์รู้แต่แกล้งไม่รู้ว่าการทำสุราพื้นบ้านเป็นการแปรรูปสินค้าเกษตร เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เพราะกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจะสามารถผลิตสุราผลิตได้ สุราทั้งจากข้าว ทั้งผลไม้ ประจำถิ่นเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรแต่การออกมา ปกป้องนายทุนสุรารายใหญ่จึงไม่ต่างจากการปิดช่องทางทำมาหากินของประชาชน ตามยุทธศาสตร์รัฐบาลใช้มาตลอด คือกดให้จนแล้วแจก เพื่ออ้างผลงาน นำงบประมาณมาแจกเงินประชาชนมากกว่าทุกรัฐบาล สามารถทำให้คนจนเพิ่มขึ้นจาก 14 ล้าน เป็น 22 ล้าน นี่คือความภูมิใจของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือ” น.ส.ทัศนีย์ กล่าว.
ทางด้าน นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท. กล่าวว่า วันนี้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประชุมพิจารณาเตรียมใช้เงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) เป็นค่าลิขสิทธิ์ 1,600 ล้านบาท ในการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก Qatar 2022 ระหว่างวันที่ 21 พ.ย.-18 ธ.ค.65 หลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้การกีฬาแห่งประเทศไทยประสาน กสทช. นั้น มองว่าการจะซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในราคาดังกล่าว เป็นราคาที่แพงเกินควร แพงกว่าประเทศอื่นเป็นเท่าตัว
พรรค พท.มองว่า คนไทยควรได้ดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก แต่ต้องมีราคาที่สมเหตุสมผล เพราะในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ ประชาชนชักหน้าไม่ถึงหลัง หลายคนยังตกงาน ไม่มีงานทำ การจะใช้เงินงบประมาณในทุกภาคส่วนต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลรองรับที่เหมาะสม เพราะประชาชนอาจตั้งคำถามได้ว่าจะมีใครรอรับเงินทอนส่อทุจริตหรือไม่ พรรคพท.ในฐานะพรรคฝ่ายค้านซึ่งมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติมีความกังวลในเรื่องนี้ ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรนิ่งเฉย ปล่อยปละละเลยให้ไทยต้องจ่ายแพง กสทช.ควรต้องทบทวนอย่างถี่ถ้วน ต้องตอบประชาชนให้ได้ว่าทำไม ไทยต้องจ่ายแพงกว่าประเทศอื่น.