นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารได้เปิดให้ลูกค้าของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีน ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วม “โครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข” อีกครั้ง ซึ่งธนาคารได้เพิ่มกรอบวงเงินไปอีก 4,000 ล้านบาท รวมเป็น 12,000 ล้านบาท ปรากฏว่ามีบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ “เต็ม” กรอบวงเงินรวม 12,000 ล้านบาท เรียบร้อยแล้ว
“หลังจากนี้ธนาคารจะขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนเข้าโครงการโดยเร็วที่สุดต่อไป โดยโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือเหลือ 1.00% ต่อปี จากทุกอัตราดอกเบี้ยที่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นระยะเวลานาน 4 เดือน (กันยายน-ธันวาคม 2564) หรือ เงินงวดลดลงประมาณ 50% ของเงินงวดเดิม”
สำหรับ โครงการ My Hero : บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ธอส. ได้จัดทำขึ้นเพื่อส่งกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับลูกค้าปัจจุบันของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรด่านหน้าในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ฉีดวัคซีนที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านที่อยู่อาศัย ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี นาน 4 เดือน ซึ่งเงินงวดใหม่ที่ลูกค้าชำระเข้ามาจะตัดชำระทั้งเงินต้นและตัดชำระดอกเบี้ย หรือหากชำระเกินกว่าเงินงวดใหม่ที่ธนาคารกำหนด ส่วนที่เกินธนาคารจะนำไปตัดเงินต้นให้กับลูกค้า และเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 4 เดือน ลูกค้าจะกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการเดิมที่เคยเลือกใช้ก่อนเข้าร่วมโครงการโดยไม่ถือว่ามีดอกเบี้ยค้างชำระ