นายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้เสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำบริการแกร็บแท็กซี่มาปรับใช้ภายในท่าอากาศยาน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสารในการเรียกใช้บริการ และแก้ไขปัญหาขาดแคลนรถแท็กซี่ภายในท่าอากาศยาน ภายใต้สังกัด ทอท. โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น

ในฐานะที่สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทยได้ให้บริการแท็กซี่ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ได้ขัดข้องกับนโยบายของภาครัฐแต่อย่างใด เพราะการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ช่วยแก้ปัญหาแท็กซี่ไม่เพียงพอที่ให้บริการภายในท่าอากาศยานได้ เพราะขณะนี้ยอมรับ แท็กซี่ที่ให้บริการที่ท่าอากาศยานมีประมาณ 2,500 คัน ถ้าเทียบกับช่วงยังไม่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 มีให้บริการ 7,500 คัน ทั้งนี้ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้แท็กซี่ได้รับผลกระทบหายไปจากระบบ และยังไม่กลับมาให้บริการเหมือนเดิม

นายศดิศ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามแกร็บแท็กซี่ที่จะนำมาให้บริการที่ท่าอากาศยาน ต้องเป็นไปตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนด เหมือนกับแท็กซี่ที่ให้บริการที่ท่าอากาศยานทุกอย่าง ทั้งรถ และคนขับรถจะต้องถูกกฎหมาย ส่วนในกลุ่มรถยนต์รับจ้างที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น ต้องผ่านการรับรองจาก ขบ. เช่นกัน เพื่อจะได้เป็นมาตรฐานให้บริการเดียวกัน

นอกจากนี้ขอให้ ทอท. จัดที่จุดจอดรถเฉพาะแกร็บแท็กซี่ให้เป็นระเบียบ เพื่อง่ายต่อการใช้บริการ และไม่กีดขวางการจราจรภายในท่าอากาศยาน รวมทั้งขอให้สมาคมมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และตรวจสอบในการให้บริการของแกร็บแท็กซี่ที่เข้ามาให้บริการในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย