เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ใจสบาย พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.ชัยภูมิ รับแจ้งจาก นางพะยอม คณะสุข อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยกลุ่มผู้สูงวัย อายุระหว่าง 50-80 ปี และกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิกว่า 20 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ นางบี (นามสมมุติ) อายุ 55 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่การเงิน สหกรณ์ชื่อดัง หลังตรวจสอบพบว่าทั้งหมดได้ร่วมกันเอาโฉนดที่ดินและปลอมแปลงลายมือชื่อในสัญญาการกู้เงินจากสหกรณ์ดัง จนทำให้สหกรณ์สูญเงินไปกว่า 20 ล้านบาท ในนั้นมีทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในอำเภอเมืองชัยภูมิกว่า 20 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65 นางบี ได้ก่อเหตุผูกคอตายที่บ้านพักตัวเอง คาดว่าทำต้องการหนีความผิดที่ก่อไว้ ผู้เสียหายทั้งหมดจึงต้องการให้ทางสหกรณ์ฯ ช่วยออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ และปลดหนี้ให้กับชาวบ้านเพื่อความเป็นธรรมด้วย

โดย นางพะยอม ให้การอ้างว่า ตนถูกนำชื่อและโฉนดที่ดิน ไปกู้เงินสหกรณ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง จำนวนเงินทั้งสิน 1,000,000 บาท โดยก่อนถูกนำชื่อและโฉนดที่ดินไปกู้ ได้รับการติดต่อจาก นางบี ว่าตัวเองกำลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝายสินเชื้อของสหกรณ์ฯ และทางสหกรณ์ฯ ต้องให้นำโฉนดที่ดินไปคำประกันในการรับราชการ ตนจึงได้นำโฉนดไปให้และเซ็นชื่อในเอกสาร ภายหลังเรื่องแดงขึ้นมา หลังจากมีจดหมายจากทนายความ ส่งมาถึงบ้านว่าตนเองเป็นหนี้สหกรณ์ 1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 3 แสนบาท ทำให้ตนตกใจเป็นอย่างมาก รีบติดต่อไปยังสหกรณ์ฯ จนทำให้ทราบว่า นางบี เอาโฉนดที่ดินไปกู้เงินจากสหกรณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่ามีคนที่เดือดร้อนจากการถูก นางบี หลอกและปลอมเอกสารไปกู้เงินอีกหลายราย จึงได้รับมอบหมายจากสมาชิกที่เดือดร้อนเข้าแจ้งความดังกล่าว

ด้าน น.ส.ศุภากรณ์ คุ้มเขว้า อายุ 48 ปี ผู้เสียหายอีกราย ให้การอ้างว่า นางบี ได้มาติดต่อขอให้ตนได้มาสมัครเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ เพื่อที่จะได้มีสิทธิกู้ยืมเงินและได้สวัสดิการต่าง ๆ ตนจึงนำเอกสารโฉนดที่ดินทั้งของตนและของพ่อไปยื่นขอสมัครตามที่อีกฝ่ายแจ้งขอเอกสาร แต่ปรากฏว่า นางบี กลับนำเอาไปทำธุรกรรมกู้ยืมเงินเสียเอง มีการปลอมลายเซ็นด้วย พอรู้ว่าโดนโกงเอาโฉนดที่ดินไปกู้เงินก็เกิดความเครียดอย่างหนัก เพราะต้องเป็นหนี้นับล้านบาท ต้องขอให้ตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรมโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เรื่องมาแดงเช่นนี้ยังถือว่าโชคดี เพราะอย่างน้อยหากขายข้าวได้เงินมาแล้วเอาไปฝากกับสหกรณ์ เงินดังกล่าวก็คงจะไม่เหลืออย่างแน่นอน หวังว่าตำรวจจะจับกุมผู้ร่วมขบวนการโกงชาวบ้านให้ได้โดยเร็ว

ด้าน พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ กล่าวว่า คดีนี้มีชาวบ้านเสียหายจำนวนมาก และได้หารือกับทางผู้กำกับแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างรอเอกสารจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อดูความเสียหายทั้งหมดว่าเท่าไหร่ อย่างไร ขอให้ผู้เสียหายรออีกสักนิด จะมีการเชิญให้ปากคำทุก ๆ คน ถึงแม้ผู้ก่อเหตุรายหนึ่งจะผูกคอตายหนีความผิดไปแล้ว แต่ก็จะต้องมีผู้ร่วมกระทำผิดด้วย ตอนนี้กำลังขุดคุ้ยว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง จะต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกรายอย่างที่สุดต่อไป.