สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า สภายุโรปมีมติเสียงข้างมาก ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ด้วยเสียงสนับสนุน 494 เสียง คัคค้าน 58 เสียง และงดออกเสียง 44 เสียง ต่อมติว่าด้วยการประกาศให้ “รัสเซียเป็นรัฐสนับสนุนการก่อการร้าย” จากการเป็นฝ่ายก่อสงครามในยูเครน ที่มีการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศทั้งมวล ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน
แม้การลงมติดังกล่าวเป็นเพียงเชิงสัญลักษณ์ หมายความว่าไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมาย ทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ แต่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า มติของสภายุโรปต้องยิ่งนำไปสู่การโดดเดี่ยวรัสเซียให้มากกว่านี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้สภาคองเกรสของสหรัฐจัดการลงมติแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ยังคงยืนกรานปฏิเสธข้อเรียกร้องของเซเลนสกีในเรื่องนี้ ปัจจุบัน รัฐบาลวอชิงตันบัญญัติให้คิวบา อิหร่าน เกาหลีเหนือ และซีเรีย อยู่ในบัญชีดำการเป็นรัฐสนับสนุนก่อการร้าย โดยประเทศใด็ตามที่อยู่ในรายชื่อนี้ จะต้องเผชิญกับมาตรการจำกัดการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ และมาตการคว่ำบาตรด้านการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ.
เครดิตภาพ : REUTERS
