เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และเครือข่ายภาคประชาชน แถลงข่าว “ถอดบทเรียนเอเปค ประชาชนได้อะไร”
นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาด จนทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสสำคัญจากการเป็นประธานเอเปค ไม่แสดงบทบาทผู้นำผลักดันให้ประเทศสมาชิกเอเปค เปิดการเจรจานอกรอบเพื่อแก้ไขวิกฤติการณ์ของโลก และกอบกู้สันติภาพ จากความขัดแย้งในสงครามรัสเซีย-ยูเครน, สงครามกลางเมืองในเมียนมา และความขัดแย้งไต้หวันและทะเลจีนใต้ รวมถึงความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีปิดกั้นแต่การชุมนุมของกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 และปราบปรามด้วยการสลายการชุมนุม สิ่งที่ประชาชนได้คือคดีความ
“ภารกิจสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จบลงแล้ว จึงขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ คืนอำนาจให้ประชาชนโดยการยุบสภาในทันที เพื่อให้ประเทศชาติได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งและแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยในอนาคต” เลขาธิการ ครป.กล่าว
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ “มายด์” แกนนำกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 ตั้งข้อสังเกต เจ้าหน้าที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 เกินกว่าเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ผู้ชุมนุมบางคนถูกยิงด้วยกระสุนยาง สูญเสียตาข้างขวา และน่ากังวล หากแผลติดเชื้ออาจจะสูญเสียการมองเห็นอีกข้าง หลังจากนี้ กลุ่มราษฎรเตรียมฟ้องกลับเจ้าหน้าที่และเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อคนทำเกินกว่าเหตุ เราจะไม่ปล่อยวัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิดเกิดขึ้นอีก คนทำร้ายประชาชนต้องออกมารับโทษตามกฎหมาย ตามกระบวนการยุติธรรม.