นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 บริษัทฯ จะปรับราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บสำหรับรถไฟฟ้าบีทีเอสในเส้นทางสัมปทานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร (กม.) 24 สถานี ได้แก่ สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต-สถานีอ่อนนุช และสายสีลม สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ-สถานีสะพานตากสิน รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีลม สถานีกรุงธนบุรี และสถานีวงเวียนใหญ่ จากราคา 16-44 บาท ปรับเป็น 17-47 บาท ทั้งนี้การปรับราคาค่าโดยสารใหม่นั้น ยังต่ำกว่าเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุดตามสัญญาสัมปทานซึ่งอยู่ในอัตรา 21.52-64.53 บาท

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสมาตั้งแต่ปี 42 เป็นเวลา 23 ปี มีการปรับราคาเพียง 3 ครั้งเท่านั้น โดยการปรับราคาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ต.ค.60 ปรับจาก 15-42 บาท เป็น 16-44 บาท จนถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 5 ปีแล้วที่บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการปรับราคาค่าโดยสารพื้นฐานที่เรียกเก็บ โดยสัญญาสัมปทานกำหนดให้บริษัทฯ สามารถปรับค่าโดยสารที่เรียกเก็บได้ทุกๆ 18 เดือน โดยไม่เกินเพดานอัตราค่าโดยสารสูงสุด แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้คำนึงถึงผลกระทบของประชาชนจึงได้มีการชะลอการปรับอัตราค่าโดยสารอย่างต่อเนื่อง

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ ผลกระทบจากสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ราคาต้นทุนสินค้า โดยเฉพาะด้านพลังงาน อัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น อัตราค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้านต่างๆ เช่น ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ที่มีจำนวนรถไฟฟ้าให้บริการสูงสุดถึง 98 ขบวน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้พยายามตรึงราคาค่าโดยสารมาโดยตลอด

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารเที่ยวเดียว (Single Journey Card) บัตรแรบบิทบุคคลทั่วไป (Adult) บัตรแรบบิทนักเรียน นักศึกษา (Student) จะคิดอัตราเดิมจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65 และจะเริ่มคิดอัตราค่าโดยสารใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.66 เป็นต้นไป ส่วนบัตรแรบบิทสำหรับผู้สูงอายุ (Senior) จะยังคงได้รับส่วนลด 50% ของอัตราค่าโดยสารปกติ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยว และระยะทางต่อวัน สามารถซื้อบัตรโดยสารประเภทหนึ่งวัน (One-Day Pass) ในราคา 150 บาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่หลากหลาย อาทิ โปรโมชั่นสะสมพอยท์จากการเดินทางเพื่อแลกเที่ยวฟรี (“บีทีเอส ชาลเลนจ์”) ซึ่งตั้งแต่ออกโปรโมชั่น เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 ถึงปัจจุบัน มีผู้โดยสารแลกเที่ยวฟรีแล้วกว่า 4 ล้านเที่ยว โดยบริษัทฯ จะเริ่มโปรโมชั่นบีทีเอส ชาลเลนจ์ ปีที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.66 ยิ่งเดินทางมาก ยิ่งได้พอยท์มาก แลกเที่ยวฟรีได้ไม่จำกัด พิเศษ 3 เดือนแรก 1 ม.ค.-31 มี.ค.66 ผู้โดยสารรับโบนัสพอยท์เพิ่มจากการเดินทาง เพื่อนำไปแลกเที่ยวฟรี ซึ่งจะช่วยให้ค่าโดยสารเฉลี่ยที่จ่ายมีอัตราใกล้เคียงกับอัตราค่าโดยสารเดิม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้คำมั่นว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ สร้างความมั่นใจ ปลอดภัยในการเดินทางให้ผู้โดยสาร เพื่อให้รถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นระบบขนส่งสาธารณะทางรางที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในระดับสากลอย่างต่อเนื่องต่อไป.